x close

แม่เปิดใจสุดซึ้ง แม้ น้องบิว จากไปแต่หัวใจยังคงอยู่-เผยเรื่องมหัศจรรย์ก่อนสิ้นลม

บริจาคอวัยวะ

          ถึงตัวจะจากไปแต่ความดียังคงอยู่..."น้องบิว" หนุ่มน้อยวัย 14 ปี ถูกรถชนอาการหนัก เสียชีวิต ขอบริจาคอวัยวะช่วยต่อลมหายใจได้ถึง 6 คน แม่เผยอยากให้ลูกได้ทำบุญในชาตินี้เป็นครั้งสุดท้าย พร้อมคำพูดสุดซึ้ง มีความสุขที่หัวใจของลูกไปอยู่ในตัวของอีกคน แม้วันนี้ไม่ได้เห็นลูกแต่หัวใจของลูกก็ยังอยู่

          วันที่ 28 มีนาคม 2560 บนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวสุดซึ้งจากเพจเฟซบุ๊ก เรารักแปดริ้ว Welove8riew.com ที่เผยเรื่องราวอันอบอุ่นหัวใจครอบครัว น้องบิว ด.ช.สมเดช ฆ้องน้อย วัย 14 ปี ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่คุณแม่กลับตัดสินใจบริจาคอวัยวะของลูกชาย จนสามารถช่วยผู้ป่วยรายอื่น ๆ ได้ถึง 6 คน โดยเรื่องราวดังกล่าวสร้างความซาบซึ้งแก่ผู้ที่ได้ทราบเรื่องราวดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

บริจาคอวัยวะ

          นอกจากนี้ นางยง มารดาของน้องบิว ยังได้เดินทางมาเปิดใจในรายการต่างคนต่างคิด ทางช่อง AMARIN TV ด้วยว่า อวัยวะของน้องบิวนั้นสามารถช่วยชีวิตคนได้ถึง 6 ชีวิต และวันที่น้องเสียชีวิต ก่อนที่น้องบิวจะจากไปได้เข้าไปลาน้องบิว ซึ่งตัวน้องบิวในขณะนั้นสมองตายแต่หัวใจยังเต้นอยู่เพราะว่าตนดูจากกราฟ แต่คุณหมอรู้แล้วแน่ ๆ ว่าน้องบิวต้องไปแล้ว หมอจึงบอกกับตนว่าขออวัยวะน้องบิวได้ไหมเอาไปช่วยเหลือชีวิตคนอื่น ตอนแรกตนก็กังวลแต่สักพักตนก็ให้ เพราะถ้าเก็บเอาไว้ก็ต้องถูกเผามันก็เสียเปล่า
            ทั้งนี้ นางยง ศิริสุข มารดาของน้องบิว เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนได้ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังลูกชายเพื่อที่จะกลับบ้าน ในระหว่างที่กำลังผ่านสี่แยกได้มีรถมอเตอร์ไซค์จากทางโท พุ่งตรงเข้ามาชนลูกชายซึ่งขี่อยู่ทางเอกต่อหน้าตนเอง จึงส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแปลงยาวแต่อาการหนักมาก จึงได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลพุทธโสธร แต่แพทย์ได้แจ้งว่าให้ทำใจ เนื่องจากน้องบิวมีอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะ มีภาวะสมองบวมช้ำ และมีเลือดออกในช่องท้องมาก จนถึงวันที่ 24 มีนาคม 2560 ทางแพทย์แจ้งว่าน้องบิวสมองตาย ไม่ตอบสนอง แต่หัวใจยังเต้นอยู่ หากถอดเครื่องช่วยหายใจจะเสียชีวิต จึงได้เชิญคุณแม่และญาติพี่น้องไปสอบถามว่าอยากจะบริจาคอวัยวะให้กับทางศูนย์บริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยหรือไม่

            มารดาของน้องบิว บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ไม่รู้มาก่อนว่ามีการบริจาคอวัยวะได้ เพราะตนเองก็เรียนไม่สูง แต่ก็ยินดีและได้บอกทางคุณยายและญาติ ๆ ว่าน้องจะไม่เจ็บปวดหรอก เพราะน้องเสียชีวิตแล้ว เมื่อเราเผาร่างน้องไปก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆ ซึ่งชาติหน้าเราก็ไม่รู้ว่าจะไปเกิดเป็นอะไรแต่ชาตินี้อยากให้ลูกชายได้ทำบุญครั้งสุดท้าย ช่วยคนอื่นที่เขาเดือดร้อนหรือทุกข์มากกว่าเราเท่าที่จะช่วยได้ ไม่ว่าดวงตาทั้งสองข้าง ตับ ไต หัวใจ จึงได้ตัดสินใจอนุญาตให้ลูกชายเป็นผู้บริจาคอวัยวะในวันนั้น

บริจาคอวัยวะ

          หลังจากนั้นตนจึงบอกกับยายของน้องบิวว่าจะให้ไหม ซึ่งตอนแรกยายบอกว่าไม่อยากให้เพราะกลัวน้องบิวเจ็บ ตนจึงบอกว่าให้ไปดีแล้ว มันคือการสร้างกุศล ต่อจากนั้นทางแพทย์ก็ได้ถามตนว่าอยากทำอะไรไหมที่จะให้น้องบิวมีความสุขครั้งสุดท้าย ยายของน้องบิวจึงบอกไปว่าขอพระ อยากให้นิมนต์พระมารูปหนึ่งมาทำบุญให้น้องบิว เมื่อพระมาถึงก็นำจีวรวางบนร่างของน้องบิว หลังจากนั้นตนและยายก็จับมือน้องบิวและพูดว่า "ไปดีนะ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวของของบิวจะเอาไปช่วยคนอื่น" พอพูดจบสัญญาณชีพจรที่เคยเต้นอยู่ค่อย ๆ อ่อนลง และจากไปในที่สุด

          ทั้งนี้  มารดาของน้องบิว ยังเล่าเรื่องแปลกให้ฟังอีกว่า น้องบิวเกิดวันที่ 6 เดือน 6 นอนรักษาตัวที่เตียงโรงพยาบาลเตียงเลขที่ 6 เสียชีวิต พ.ศ. 2560 บริจาคอวัยวะช่วยชีวิตคน 6 ชีวิต ชีวิตของน้องบิวเกี่ยวกับเลข 6 ทั้งหมด เมื่ออนุญาตให้บริจาคอวัยวะหมอที่โรงพยาบาลได้โทรศัพท์แจ้งสภากาชาดไทยแจ้งหมอมาผ่าอวัยวะของน้องบิว ที่สำคัญคือตอนที่กำลังผ่าเอาหัวใจของน้องบิวออกไปมีเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อเอาไปใส่ในร่างของอีกคนที่กำลังรอการผ่าตัดอยู่

          "ถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจ แต่มีความสุขตรงที่รู้ว่า หัวใจของลูกไปอยู่ในตัวของอีกคนหนึ่ง แล้วเขาปลอดภัย แม้วันนี้ไม่ได้เห็นบิวแต่หัวใจของบิวที่ไปอยู่กับอีกคนก็ยังคงเต้นอยู่ ลูกก็ยังอยู่" นางยง มารดาของน้องบิว กล่าว

          เรื่องราวของน้องบิว นับว่าเป็นการต่อลมหายใจให้แก่ผู้อื่น ถือว่าเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ที่สุด แม้ว่าวันนี้น้องบิวจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ความดี การอุทิศร่างกายของน้องบิวจะอยู่ในใจของทุกคน...ตลอดไป
 

บริจาคอวัยวะ

บริจาคอวัยวะ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แม่เปิดใจสุดซึ้ง แม้ น้องบิว จากไปแต่หัวใจยังคงอยู่-เผยเรื่องมหัศจรรย์ก่อนสิ้นลม อัปเดตล่าสุด 29 มีนาคม 2560 เวลา 11:11:38 40,019 อ่าน
TOP