x close

ย้อนไทม์ไลน์ คดีน้องแอ๋ม จากปมพิษแรงหึง ส่อพลิกขัดประโยชน์แก๊งค้ายา

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม สาวคาราโอเกะ สืบสาวพบคบหาทอมหลายคน สามีทราบเรื่องนี้ดี ตั้งปมชู้สาวและลักทรัพย์ แต่เหมือนอาจจบที่การขัดแย้งเรื่องยาเสพติด
 
          คดีที่สังคมกำลังติดตามอย่างมากในตอนนี้ หนีไม่พ้นการฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม หรือ น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย สาวคาราโอเกะ วัย 22 ปี ซึ่งมีผู้พบศพเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560 โดยศพของผู้ตายถูกหั่นเป็น 2 ท่อน นำยัดใส่ถุงดำและใส่ถังดำไปฝังไว้ในพื้นที่บ้านโนนสง่า อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น สภาพใบหน้าถูกทำร้ายบวมช้ำ คอถูกรัดด้วยถุงดำ มีแผลถูกตัดด้วยเลื่อยบริเวณใต้ชายโครงจนขาด แขนถูกมัดเอาไว้ โดยที่แขนซ้ายถูกตัดบริเวณข้อศอก เป็นที่น่าสยดสยองอย่างมาก

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          เบาะแสแรกในการสืบหาความจริง มาจากรอยสักที่แผ่นหลังของผู้ตาย ที่เขียนข้อความว่า Apichaya Yuntoon เมื่อตรวจสอบพบว่าอยู่ในกลุ่มผู้ที่ทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น และที่หน้าอกซ้าย มีคำว่า poppy ก่อนที่ต่อมาจะสืบทราบว่าผู้ตายคือ น้องแอ๋ม ปรากฏรอยสักตรงกัน และต่อมาพบว่ารอยสัก poppy คือชื่อของสาวทอมคนหนึ่ง ซึ่งได้ไปแจ้งความว่าน้องแอ๋ม หายตัวไป ก่อนจะมีการพบศพดังกล่าว

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          อย่างไรก็ดี ในวันที่พบศพได้มีสาวทอมอีกหนึ่งรายถูกเรียกมาสอบสวน ทราบชื่อคือ น้ำฝน เบื้องต้นใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าตัวให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี และให้การเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนอย่างมาก และเนื่องจากยังไม่พบพิรุธจึงอนุญาตให้เดินทางกลับไป 
คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          วันที่ 26 พฤษภาคม 2560 แม่ของน้องแอ๋ม ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อชี้ภาพยืนยันตำหนิรูปพรรณสัณฐาน ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดภาพให้ดู แม่ของผู้ตายก็รีบหันหน้าหนีและร้องไห้ทันที พร้อมกับยืนยันว่าเป็นลูกสาวตัวเองจริง โดยเสียใจเพราะรับไม่ได้ที่ลูกสาวต้องมาจบชีวิตเช่นนี้ นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลว่า ลูกสาวได้คบกับทอมนอกเหนือจากสามีทั้งก่อนและหลังแต่งงานจริง 

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          ในวันเดียวกัน ได้มีการสอบสวน นายศักดิ์ชัย สามีน้องแอ๋ม วัย 36 ปี ซึ่งทำอาชีพช่างรับเหมาก่อสร้าง เจ้าตัวเผยว่า คบกับผู้ตายเมื่อพฤศจิกายน 2559 ระหว่างนั้นทราบว่าฝ่ายหญิงคุยกับทอมหลายคนจริง ครั้งสุดท้ายที่เจอกันคือ 5 พฤษภาคม ซึ่งฝ่ายหญิงจะไปทำงานที่ จ.ขอนแก่น แต่ตนห่วงว่าจะไปแอบคบกับทอมจึงมีการทะเลาะกัน จากนั้นภรรยาก็ได้เดินทางไปทันทีในวันต่อมา ส่วนการคุยกันครั้งสุดท้ายคือ วันที่ 22 พฤษภาคม พบว่าผู้ตายติดสายอยู่กับคนอื่นกว่า 10 นาที และวันต่อมาคือ 23 พฤษภาคม ก็ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          สามีน้องแอ๋ม ยังเปิดเผยข้อมูลสำคัญอีกว่า นอกจากตนจะรู้จักทอมชื่อ ป๊อปปี้ ที่มาติดพันกับภรรยาแล้ว ยังมีทอมอีกหนึ่งรายที่ชื่อ เบญ ซึ่งอยู่ จ.ชัยนาท ที่มารักชอบกับน้องแอ๋ม ซ้ำยังเคยทำร้ายร่างกายภรรยาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ซึ่งมีการแจ้งความเอาไว้แล้ว แต่ตนเองไม่ปักใจว่าใครลงมือก่อเหตุ

          ต่อมา วันที่ 27 พฤษภาคม ป๊อปปี้ หรือ น.ส.อภิชญา ยันทูล ได้เข้าให้ปากคำกับตำรวจ เผยว่ารู้จักกับน้องแอ๋มและสนิทสนมมา 2-3 ปี ก่อนจะห่างกันเมื่อผู้ตายแต่งงานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยก่อนเกิดเหตุ น้องแอ๋ม ได้หนีสามีมาอยู่ที่หอพักกับตนที่ จ.ขอนแก่น ก่อนจะหายไปจากหอเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ซึ่ง ป๊อปปี้ เผยอีกว่า ผู้ตายเป็นคนสวยและทำงานกลางคืน จึงมีทอมและผู้ชายมาติดพันจำนวนมาก นอกจากนี้ทราบว่า น้องแอ๋ม เคยมีสามีในช่วงที่อยู่ จ.ชัยนาท ก่อนที่จะมาคบกับตนและแต่งงานกับสามีคนใหม่อีกด้วย

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          วันเดียวกัน น้ำฝน หรือ น.ส.ภูริดา ไกยวินิจ หรือ ฝน อายุ 32 ปี ได้เข้าให้ปากคำเป็นครั้งที่ 2 เผยว่า รู้จักกับน้องแอ๋มได้ 1 สัปดาห์ ผ่านเฟซบุ๊ก ก่อนหน้านี้เจอกันไม่กี่ครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปรับน้องแอ๋ม พาไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม จากนั้นก็ได้ไปกินเหล้ากัน 2 คน โดยเมื่อถึงตี 4 ของวันที่ 23 พฤษภาคม ก็ได้พาน้องแอ๋มไปส่งที่ห้อง และคุยวิดีโอคอลกันสักพัก แต่ก็พบว่าน้องแอ๋ม ไม่ได้อยู่ในห้องพัก ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

          ส่วนอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ ทอมที่ชื่อ เบญ หรือ นางสาวเบญจรัตน์ พิมพา อายุ 23 ปี ที่สามีน้องแอ๋ม เล่าว่า เคยก่อเหตุทำร้ายภรรยาจนดั้งจมูกหัก เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2560 ซึ่งเมื่อตรวจสอบที่ สภ.มโนรมย์ ก็พบว่ามีการลงบันทึกประจำวันคดีนี้เอาไว้ แต่หลังมีข่าวฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม ปรากฏว่า เบญ ได้หายตัวไปจากบ้านพัก และเมื่อแม่น้องแอ๋มโทรศัพท์ไปจะให้มางานศพ ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกด้วย

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

           ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นคดีน้องแอ๋มไว้ 2 ปมคือ เรื่องชู้สาวและชิงทรัพย์ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน 6 ของผู้ตายได้หายไป ขณะที่ภาพวงจรปิดครั้งสุดท้ายของน้องแอ๋ม พบว่าได้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม หน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ติดใจในประเด็นนี้เพราะพบว่าเป็นการไปกับ น้ำฝน ซึ่งได้สอบปากคำไปแล้วไม่พบพิรุธ แต่เบื้องต้นมั่นใจว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 2 คน คาดว่าขนศพมาบนรถกระบะ ก่อนจะนำไปฝังที่ จ.ขอนแก่น ดังกล่าว

          นอกจากนี้อีกประเด็นที่เพิ่มเข้ามาคือ ปมยาเสพติด ซึ่งดูเหมือนจะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้มากขึ้น เมื่อล่าสุด 29 พฤษภาคม ได้มีการออกหมายจับ ชาย 1 คน และหญิง 3 คน ได้แก่ นายวศิน อายุ 22 ปี, น.ส.จิดารัตน์ อายุ 21 ปี, น.ส.ปรียานุช อายุ 24 ปี และ น.ส.กวิตา อายุ 25 ปี ในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ โดยคาดว่าเกิดขึ้นเพราะความขัดแย้งส่วนตัว หลังผู้ตายเคยพาตำรวจไปจับกลุ่มดังกล่าวผู้ในคดียาเสพติด โดยมีข้อมูลว่าทั้งหมดกำลังหลบหนีอยู่ตามแนวชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

          ขณะที่ปมของ เบญ ทอมที่เคยทำร้ายน้องแอ๋ม ซึ่งยังติดต่อไม่ได้ ทางตำรวจก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นนี้ออก และเตรียมตามตัวมาสอบปากคำเช่นกัน 

          สุดท้ายคดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋มนั้น ใกล้ได้ความจริงแล้วว่าปมสังหารครั้งนี้เกิดจากประเด็นใด เชื่อว่าหลังจับกุมกลุ่มผู้ที่ถูกออกหมายจับได้ รวมถึงสอบปากคำสาวทอมชื่อ เบญ แล้ว จะมีความคืบหน้าซึ่งนำไปสู่บทสรุปได้อย่างแน่นอน

คดีฆ่าหั่นศพ น้องแอ๋ม

ภาพและข้อมูลจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้อนไทม์ไลน์ คดีน้องแอ๋ม จากปมพิษแรงหึง ส่อพลิกขัดประโยชน์แก๊งค้ายา อัปเดตล่าสุด 30 พฤษภาคม 2560 เวลา 10:59:50 102,394 อ่าน
TOP