เปิดคำสารภาพเภสัชกรมือฆ่าพ่อตา-แม่ยาย เผยทำไปโดยไม่รู้ตัว ตอนนั้นมันมืดไม่รู้ว่ารอดมาได้อย่างไร ชี้รับโทษแล้วด้วยการไม่ทำบัตร ปชช. เพื่อไม่ให้มีสิทธิ์รักษาในโรงพยาบาล เพราะขนาดติดคุกยังรักษาฟรี
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นายกฤษณะชัย จันทราศรี อดีตเภสัชกร ก่อเหตุฆ่าพ่อตา-แม่ยาย เสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาระบุว่าหลังก่อเหตุ 2 ปีตนเองก็สำนึกผิดมาโดยตลอด และคิดว่าครอบครัวผู้เสียหายจะให้อภัยแล้ว แต่พอมีข่าวออกมาทราบว่า ครอบครัวผู้เสียหายอยู่อย่างทุกข์ทรมานมาตลอด 13 ปี จึงรู้สึกสงสาร และอยากให้ครอบครัวผู้เสียหายอภัยและอโหสิกรรมให้ [อ่านข่าว : รวบอีก 1 ผู้ต้องหาคดีเภสัชกรฆ่าพ่อแม่อดีตแฟน-สารภาพ รู้สึกผิดมาโดยตลอด คลิก]
เกี่ยวกับเรื่องนี้วันที่ 22 มิถุนายน 2560 เฟซบุ๊ก อีจัน ได้เผยคลิปวิดีโอคำให้การของนายกฤษณะชัย ดังนี้
โดยนายกฤษณะชัย ระบุว่า ตอนเกิดเหตุก็ยังไม่คิดว่าเขาจะต้องตาย เพราะใจส่วนลึกก็ยังคิดว่าจะกลับมานอนบ้านอยู่ ลูกนอนอยู่ในบ้าน แม่นอนอยู่ในบ้าน คล้าย ๆ สถานการณ์พาไป ชุลมุน ไม่ได้คิดว่าพ่อแม่กีดกัน ทำไมถึงถาม เขาบอกมาว่าพ่อแม่กีดกันเหรอ ถ้าพ่อตา-แม่ยาย เอาเมียคุณไปล่ะ ก็ไม่ได้คิดจะทำถึงขนาดนั้นแต่ตอนนั้นชุลมุน
ส่วนที่เขียนจดหมายข่มขู่ว่าพ่อแม่ตายไปก็ดีแล้วนั้น เป็นการข่มขู่ตรงไหน และที่มีการพูดประมาณว่าถ้ากูโดนจับได้มึงก็ตายนั้นตนพูดหรือ พูดถึงจดหมายหรือว่าพูดคิดว่าไม่มีเบอร์น้องสาว ก็คุยกับพี่สาวเขา ไม่ได้คุยกับน้องสาวเขา ที่บอกว่ามึงตายกูตายนี่ไม่ได้คุยกับน้องสาวนะ มีเบอร์พี่สาว มีเบอร์เมียอยู่ ก็คุยกับเมีย ส่วนใหญ่ก็จะบอกเขาว่า ให้อภัยพี่ได้ไหม อโหสิกรรมได้หรือเปล่า
ช่วงแรกที่หนีโทร. ไปหาเมียเพื่อจะรู้ข่าวคราวว่าเขาอยู่ยังไง เป็นยังไงบ้าง บางวันโทร. ไปเขาก็อารมณ์ดี อภัย อโหสิกรรมให้ บางวันก็หงุดหงิดโมโห ช่วงนั้นก็โทร. ทั้งมือถือ และโทรศัพท์สาธารณะ ช่วงนั้นมือถือกำลังบูมมาก ตอนนั้นก็หนีเข้ากรุงเทพฯ แล้วคิดว่าไม่ควรอยู่แล้ว หนีเตลิดเปิดเปิง ตกใจไปหมด ถ้าตนคิดว่าเขาจะต้องตาย ตนต้องเตรียมทางหนีไว้ก่อน พอแทงก็รู้ว่าตายรู้นะว่าเขาตาย ตอนนั้นมันมึนไปหมด ปัญหาเรื้อรังสะสมเก็บกดยาวนานเป็นปี แฟนก็มาอยู่ด้วย ไป ๆ มา ๆ จนเหมือนเครียดไม่มีวันทำมาหากิน เงินทองมีเป็นล้าน เหลือไม่กี่แสน ถ้าถามว่าคุณมีเงินล้านเหลือเพียง 50,000 ภายใน 1 ปี คุณจะมีอารมณ์คิดอะไรบ้าง
ที่ตนหายไปก็เพราะคิดผิดที่แต่งงานกับเขา ที่เดินทางชีวิตเข้าไป ไม่มีคนปรึกษา ไม่มีคนแนะนำ ส่วนเทคนิคการหลบตำรวจนั้นถ้าออกสื่อแล้วจะทำให้ตำรวจเดือดร้อนไหมล่ะ ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ตนอยู่ดอนเมือง
เขาจะจับคุณไปทำอะไร คุณไม่ได้คิดจะไปฆ่าใครแล้ว ตนฆ่าเสร็จ ไม่ใช่ว่าจะไปฆ่าคนนู้นคนนี้ ถาม ตำรวจจะจับตนไปทำไม ออกมาตนก็คิดแต่จะทำมาหากินไม่เบียดเบียนชาวบ้าน จะตั้งตัวให้เป็นหลักเป็นฐาน พออยู่พอกิน ไม่ให้สังคมเดือดร้อน เรื่องรับโทษนั้นต้องรับโทษอยู่แล้วทำตัวแบบนี้ ที่รับโทษคุณไม่ไปทำบัตรประชาชนแล้ว ไม่มีสิทธิ์ในโรงพยาบาลแล้ว นี่รับโทษหรือยัง คุณรับโทษ ติดคุก คุณยังรักษาฟรีนะ ตนไม่ต้องทำบัตรเลย เจ็บป่วยก็ไม่ต้องไปรักษา นั่งสมาธิเอา หายก็หาย ไม่หายก็ล้มไป ตามเวรตามกรรมไป
ส่วนผู้หญิงที่ช่วยตนลงมือฆ่านั้น ตนหลอกเขามาบอกว่าให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย เพราะตนขี่มอเตอร์ไซค์ไปดึก ๆ กลัวง่วงนอนหรือพลาดพลั้งอะไรไปเดี๋ยวขี่รถกลับไม่ได้ เพราะตรงนี้ประการหนึ่ง ตนตั้งใจจะไปฆ่าเขาไหม เจตนาอีกอย่างที่หลอกเขาไปเพื่อให้ขี่รถพาตนกลับบ้าน เขาเป็นเด็ก อายุประมาณ 16-18 ปี แล้วตนเป็นหมอ พอพูดอะไรเขาก็จะฟังทำตามไม่ต่อล้อต่อเถียง เขาก็ตามตนไป จนกระทั่งตะลุมบอน เปิดไฟตาสว่างตนมองไม่เห็น สุดท้ายตนหันหลังกลับมาคนที่ไปกับตนจับคนตายผู้หญิง ตอนขี่รถออกมาเขาบอกกับตนว่า "พี่ ๆ 2 คนนั้นเขารุมพี่ แล้วพี่ล้มลง หนูคิดว่าพี่จะไม่รอดแล้ว" ตอนนั้นตนก็ไม่รู้สึกตัวเลย มันมืด แล้วตนรอดมาได้อย่างไร จำได้ว่ามีสติอยู่ครั้งหนึ่ง จำได้ว่ามีมีดมา ตนก็ชักมีดออกมาและง้างมีดขึ้น พวกเขาก็เลยปล่อยแขนหมด ตนจึงหันไปเห็นคนที่มาด้วยกันว่าเขาทำอะไรอยู่
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก อีจัน
