วันที่ 12 กันยายน 2560 นายสุทธิชัย ใจเย็น อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า มีพระที่ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กะไหล มั่วกับสีกา และกินน้ำกระท่อม
โดยนายสุทธิชัยเล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นสักประมาณ 1 ปี แล้ว เนื่องจากภรรยาที่อยู่กินกันมากว่า 7 ปี และมีลูก 1 คน อายุ 1 ขวบกว่า ๆ ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับพระ ตนเองรู้เรื่องมาตั้งนานแล้วว่าภรรยาตนเองมีอะไรกับพระรูปดังกล่าว ซึ่งเป็นถึงเจ้าอาวาสวัดเเห่งหนึ่ง แต่ไม่มีหลักฐาน ทำให้มีเรื่องทะเลาะกับภรรยาและเลิกรากันไป
ทั้งนี้ นายสุทธิชัย กล่าวว่า พระรูปดังกล่าวได้ยอมรับว่าเป็นภาพของตนจริง และมีอะไรกับภรรยาของตนจริง พร้อมกับกินน้ำกระท่อมก็เป็นเรื่องจริง โดยพระรูปดังกล่าวสารภาพเองจากปาก ตนก็นั่งฟังอยู่ด้วย และมีการเขียนบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ด้วย แต่สิ่งที่ตนเองไม่ค่อยเห็นด้วยนั้นคือทางคณะสงฆ์แค่ให้เลือกว่าจะสึกหรือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด และออกจากวัดไป ตนสงสัยว่าทำไมต้องให้เลือกด้วย ทั้งที่ความผิดชัดเจนขนาดนี้ ซึ่งตนคิดว่าต้องจับสึกอย่างเดียว และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจหาสารเสพติดด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ตนเองต้องออกมาร้องสื่อ เพราะมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแล้ว
นายสุทธิชัย บอกว่า ตอนแรกก็คิดว่าไม่อยากให้เป็นข่าวใหญ่โต จึงเข้าไปเคลียร์ แต่ผลที่ได้กลับไม่ค่อยเป็นธรรมสักเท่าไร และตนมองว่า พระที่มั่วสีกาน่าจะต้องจับสึกสถานเดียว เพราะถือว่าผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรง นี้แค่ให้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและออกไปจากวัดในพื้นที่ จึงไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และหากปล่อยไปอย่างนี้ พระรูปดังกล่าวก็จะไปทำแบบนี้อีกกับที่อื่น โดยใช้ผ้าเหลืองมาบังหน้า ทำให้ศาสนาพุทธของเราเสื่อมลงไปอีก
ภาพและข้อมูลจาก