เปิดเรื่องเล่าจากหญิงผู้ใช้ชีวิตกับฆาตกรต่อเนื่องนาน 3 ปี ก่อนตกเป็นเหยื่อ เผยเริ่มถูกกระทำรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนที่อยู่ด้วยกัน จนถึงวันแห่งความโหดร้าย กับคำสารภาพจากปากเขา
วันที่ 12 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ มีรายงานเรื่องราวจากปากของ เดเลีย บัลเมอร์ หญิงชาวออสเตรเลีย ที่อาศัยในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้รอดชีวิตจากการสังหารของฆาตกรต่อเนื่อง ที่เธอเคยใช้ชีวิตอยู่กับเขามานานถึง 3 ปี โดยไม่ทราบเลยแม้แต่น้อยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองในอนาคต
เดเลีย ซึ่งขณะนี้ยังคงทนทุกข์อยู่กับเหตุการณ์ในหนหลัง ได้เล่าย้อนความกลับไปเมื่อปี 2534 ในวันที่เธอได้พบกับ จอห์น สวีนีย์ เป็นครั้งแรกในผับที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในตอนนั้นเขาบอกเธอว่าตัวเองทำงานก่อสร้างในเยอรมนี ชอบเดินทางและรักความแปลกใหม่ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกเขาดึงดูด เพราะพวกเธอมีความหลงใหลในการเดินทางท่องเที่ยวเช่นกัน
นับจากนั้น เดเลียกับจอห์นก็ได้คบหาและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน วันเวลาในตอนนั้นช่างสวยงามราวสิ่งที่เกิดขึ้นในนิยาย แต่ไม่นานเธอก็ต้องตื่นจากฝัน เมื่อจอห์นเริ่มแสดงท่าทีควบคุมพฤติกรรมของเธอมากขึ้น ทั้งยังใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายและจิตใจของเธอ ลามไปจนถึงการข่มขู่คุกคาม
ในวันหนึ่ง เดเลียยังได้พบถุงสีเขียวซ่อนอยู่ใต้เตียงที่ห้องของเขา ภายในนั้นมีอุปกรณ์อยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเทปกาว ถุงมือ เชือก แผ่นพลาสติกขนาดใหญ่ รวมถึงเลื่อย ซึ่งตอนนั้นเธอไม่ทันฉุกใจคิดเลยว่าเขาเคยใช้ของเหล่านี้ทำอะไรมาก่อน กระทั่งวันคืนแห่งความโหดร้ายมาถึง เธอจึงตระหนักว่ามันน่าจะเป็นอุปกรณ์กำจัดศพที่เขามีอยู่
เดเลีย เผยว่า ในปี 2537 หลังจากที่เขาเริ่มใช้ความรุนแรงกับเธอมากขึ้น เธอก็ถูกเขาจับขังไว้ในบ้านของเธอเอง เป็นเวลานับสัปดาห์ที่เขาจับเธอผูกแขนขาไว้กับเตียง เขาข่มขืนเธอ ข่มขู่ไม่ให้เธอกรีดร้อง เขาเอาแต่เค้นถามถึงความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่มคนเก่า ก่อนจะเริ่มสารภาพถึงสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับ มาลิสสา ฮัลสเตด นางแบบสาวที่เป็นแฟนเก่าของเขา
จอห์นซึ่งเอาแต่โบกปืนและมีดไปมาอย่างบ้าคลั่ง บอกกับเธอว่า เขาเห็นมาลิสสาอยู่กับผู้ชายคนอื่นอีก 2 คนในห้อง เขาจึงจัดการฆ่าทั้ง 3 คนทิ้ง นั่งอยู่กับศพของคนเหล่านั้นอยู่นานถึง 3 วัน ก่อนจะตัดสินใจหั่นศพใส่ถุงนำไปทิ้งลงคลอง เพื่ออำพรางไม่ให้ตำรวจตามตัวเขาพบ
สิ่งที่ได้รู้ทำให้เดเลียหวาดกลัวอย่างหนัก จนเมื่อถึงวันที่เธอถูกปล่อยตัวออกมา เธอก็ได้แจ้งความสิ่งที่เขาทำไว้กับเธอต่อตำรวจ ซึ่งแม้ว่าเขาจะถูกจับตัวไปแล้ว แต่เพียงไม่นานหลังจากนั้นจอห์นก็ได้รับการประกันตัวออกมา ในขณะที่เดเลียได้แต่หวาดกลัวเมื่อทราบข่าวดังกล่าว เพราะเธอรู้ดีว่าเขาต้องตามมาเอาคืนเธออย่างแน่นอน
และสิ่งที่เดเลียคิดไว้ก็เกิดขึ้นจริง เพราะในไม่ช้าเธอก็ถูกจอห์นตามมาใช้ขวานไม้และมีดขึ้นสนิททำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เขาทำให้ปอดของเธอทะลุ หักแขนทั้งสองข้าง ใช้ขวานจามที่หัวของเธอ และเสียบมีดที่หน้าอก ก่อนจะทิ้งร่างของเธอให้นอนหายใจรวยรินอยู่ที่หน้าบ้านของเธอเอง ก่อนที่ตัวเขาจะหลบหนีไป
เดเลียยอมรับว่า เธอคิดว่านั่นเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเธอแล้ว สิ่งที่เผชิญทำให้เธอไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป และเธอก็รู้สึกเสียใจมากที่ตื่นมาในห้องไอซียู แล้วพบว่าตัวเองยังคงมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้หลังจากการหลบหนีเป็นเวลานานถึง 6 ปี ในที่สุดทีมตำรวจที่ร่วมมือกันถึง 2 ประเทศก็สามารถตามจับกุมตัวจอห์นมาดำเนินคดีได้จนสำเร็จ โดยพบว่าในช่วงเวลาที่เขาหลบหนีอยู่นั้น เขายังได้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพหญิงอีกรายด้วยเช่นกัน ซึ่งจากสิ่งที่เขาทำไว้นั้นทำให้ฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ต้องเผชิญกับโทษจำคุกตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม เดเลียยอมรับว่า แม้คนร้ายจะเข้าคุกไปแล้ว แต่สำหรับเธอที่ตอนนี้มีอายุ 67 ปีแล้ว เธอไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากเธอยังคงเจ็บปวดอยู่กับสิ่งที่เขาทำไว้ แม้ใครจะมองว่าเธอโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ แต่เธอกลับไม่คิดเช่นนั้น เธอหวังให้ตัวเองตายไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น และแม้ว่าเธอจะยังมีลมหายใจ แต่ร่างกายในตอนนี้มันเหมือนกับไม่ใช่ตัวเธออีกต่อไป
"เขาอยากให้ฉันตายด้วยความเจ็บปวด มันก็สมความตั้งใจเขาแล้ว ฉันกำลังตายอยู่ด้วยความเจ็บปวดทั้งกายใจ" เดเลีย กล่าว