พ.ท. นพ.ภาคย์ โลหารชุน โชว์ท่าหัวปักพื้น บอกเป็นเรื่องธรรมดา ทำนานเป็นชั่วโมงก็ยังได้ ชี้ต่างคนต่างมุมมอง
ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจและติดตามคดีนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ถูกทำโทษ ก่อนจะเสียชีวิตปริศนา อีกทั้งเมื่อผ่าศพพิสูจน์กลับพบว่าอวัยวะภายในหลายส่วนหายไป โดยพบกระดาษชำระอยู่ในสมองแทน จนกลายเป็นข่าวใหญ่ ร้อนถึงทางกองทัพไทย ต้องออกมาแถลงชี้แจงว่า น้องเมย ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว ส่วนสมองและหัวใจนั้น ทางทีมแพทย์ได้เก็บไปแช่แข็งเพื่อรอการตรวจ [อ่านเพิ่มเติม : กองทัพไทย แถลงผลชันสูตร น้องเมย ยอมรับเอาสมอง - หัวใจ ไปแช่แข็ง]
ล่าสุด (23 พฤศจิกายน 2560) พ.ท. นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความระบุถึงกรณีการทำท่าหัวปักพื้น ว่า ในมุมมองทางการแพทย์ ย่อมมีความเป็นห่วงเป็นธรรมดา เพราะท่านี้อาจเป็นอันตรายกับคนที่มีโรคประจำตัว หรือคนที่ไม่เคยฝึกอาจได้รับบาดเจ็บ กล้ามเนื้อหรือกระดูกต้นคอ หากผิดพลาด แต่ในมุมมองของผู้ที่ได้รับการฝึกฝนมา ก็ถือว่าเป็นท่าปกติธรรมดา เพราะกล้ามเนื้อคอได้รับการฝึกฝนมาแล้ว ใคร ๆ ก็ทำได้ นานเป็นชั่วโมงก็ยังได้
นอกจากนี้ในระยะยาว พวกรุ่นพี่ที่ตนรู้จักที่ผ่านหลักสูตรรบพิเศษที่ผ่านการฝึกท่าหัวปักมาอย่างโชกโชนจนอายุมาก หรือเกษียณไปแล้ว ก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีปัญหาสุขภาพจากท่านี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัย 100% ในระยะยาว เพราะหากแก่ตัวไปกระดูกเริ่มเปราะบางอาจงานเข้าก็ได้ หรือเริ่มมีโรคประจำตัว เช่น ความดัน หลอดเลือดสมอง
โดยหมอภาคย์ บอกอีกว่า ในโลกนี้มีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ และไม่มีอะไรแน่นอน ปัจจัยตัวบุคคลแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ความเห็นและมุมมองมันย่อมแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา มันเกิดจากประสบการณ์ที่แต่ละบุคคลสะสมมา ไม่มีประโยชน์ที่จะไปหาว่าใครถูกใครผิด เพราะผลลัพธ์ที่เกิดกับแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน แต่มันจะไม่เป็นการดีถ้าความเห็นต่างนำมาซึ่งความเบียดเบียน หรือเกลียดชังกัน ต่างคนต่างมุมมองคือธรรมชาติของมนุษย์ ยอมรับธรรมชาติข้อนี้ แล้วปรับตัวเข้าหากันที่จุดกึ่งกลาง
ก่อนทิ้งท้ายว่า ... สามัคคีกันไว้ประเทศชาติจะได้สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง
ขณะที่ต่อมา เจ้าตัวได้โพสต์ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวหลังถูกชาวเน็ตเข้ามาวิจารณ์อย่างดุเดือด โดยบอกว่า สิ่งที่ได้โพสต์ไปนั้นพูดถึงเฉพาะ "ท่าหัวปักเท่านั้น" ประเด็นคือ "ไม่ต้องการให้เกิดการเข้าใจผิดระหว่าง ทหาร และคุณหมอ" ไม่ได้เชื่อมโยงกรณีน้องเมยแต่อย่างใด
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ภาคย์ โลหารชุน
