กลายเป็นข้อพิพาทร้อนโซเชียลขณะนี้ กรณีคลิปคุณป้าสุดเดือด คว้าขวานจามรถกระบะของ นางสาวรชนิกร เลิศวาสนา เนื่องจากไม่พอใจที่มาจอดขวางประตู ทางเข้า-ออกบริเวณหน้าบ้าน ทั้งที่มีป้ายห้ามจอดขนาดใหญ่ติดไว้ โดยชาวเน็ตมีทั้งเข้าใจและเห็นใจฝั่งคุณป้าเจ้าของบ้านที่ไม่สามารถนำรถออกจากบ้านได้ ขณะที่บางส่วนก็มองว่า คุณป้าทำเกินกว่าเหตุไปหรือไม่ ?
มีตลาดเต็มหมู่บ้าน ถามว่าทำได้อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการบรรเทาทุกข์เลย วันที่เกิดเหตุคือ วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2561 ออกจากบ้านจะไปทำธุระ ออกไม่ได้ กดแตรแล้ว กระจกก็ติดฟิล์มดำ ไม่สามารถเคลื่อนรถได้ ล็อกเกียร์ ล็อกเบรกมือ โทร. ไปแจ้งความเดือดร้อนก็ไม่มีใครมาช่วย ใช้สิทธิชอบธรรมแล้วก็ออกไม่ได้ วันพักผ่อนแต่ทำตลาดทุกวัน อากาศบริสุทธิ์ไม่สามารถสูดได้ แก๊สพิษควันพิษเข้าบ้าน จัดตลาดตั้งแต่เที่ยงคืนถึงเที่ยงวัน ใช้อิทธิพลข่มขู่คุกคาม ลอบค้าประเวณี ค้าสิ่งเสพติด จัดตลาดไปรับแรงงานต่างด้าว ฟ้องศาลก็ไม่ได้รับการดูแลคุ้มครอง ทุกคนละเลยใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อนบ้านขาหักออกจากบ้านไม่ได้ ไม่สบายก็ออกจากบ้านไม่ได้
หน้าบ้านกลายเป็นที่ขายของเข้า-ออกไม่ได้ วันที่จะออกจากบ้านก็มีรถมาจอดขวางอีก นี่คือความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น คนที่ออกมาจากตลาดบอกว่าได้ยินเสียงแตรแล้ว แต่ยังซื้อของไม่เสร็จ มันไม่ถูกต้อง ล็อกเกียร์ ล็อกเบรกมือ จะบอกไม่รู้มันไม่ใช่ มีเจตนาปิดกั้น พอออกจากตลาดยังยืนเป็นเวลานานกว่าจะออกมาเลื่อนรถ สิ่งเหล่านี้เป็นความผิดของผู้บุกรุก ตำรวจมากล่าวหาตนข้อหาทำลายทรัพย์ ข่มขู่คุกคาม แล้วบอกจอดหน้าบ้านนี้ไม่ผิด ตนอยากบอกว่า นี่คือหมู่บ้านไม่ใช่ที่สาธารณะ ถูกละเมิดสิทธิ ฝ่าฝืนกฎหมาย พยายามแก้กฎหมายโดยการลาดยางมะตอย ตีเส้นจราจร
คุณแม่ตนไม่สบายต้องเข้า ๆ ออก ๆ โรงพยาบาลเป็นประจำ แต่รถกีดขวางทางเข้า-ออกเข้าบ้านไม่ได้ ออกก็ไม่ได้ เพื่อนบ้านคุณพ่อไม่สบาย มีปัญหาทางเข้า-ออก นี่คือความเดือดร้อนของประชาชน ศาลคุ้มครองแล้วก็ยังมีการฝ่าฝืน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสที่ว่าพ่อของคุณป้าเสียชีวิตเพราะรถจอดขวางมั่วซั่วหน้าบ้าน ทำให้พาส่งโรงพยาบาลช้านั้น คุณป้า ตอบว่า พ่อตนไม่ได้เสียชีวิตตามกระแสข่าว แต่เป็นของเพื่อนบ้าน ผู้สูงอายุในหมู่บ้านได้รับความเดือดร้อนเพราะออกจากบ้านไม่ได้ เวลาไปหาหมอลำบากมาก เจอรถกีดขวางทางทุกวัน เมื่อเป็นหมู่บ้านก็มีสาธารณประโยชน์ แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับไปเทยางมะตอย
เมื่อถามถึงหมายเรียกที่เรียกตนนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นต้องไปเรียกกับ ผู้ว่าฯ กทม. เพราะเราอยู่ในการคุ้มครองของศาล จะให้ประชาชนทำยังไง ออกมาแล้วเอาของใส่รถก็ยังเดินไปมาเกือบชั่วโมง ถามว่าผิดไหม เราอยู่ในพื้นที่ ผู้ที่เข้ามาคือผู้บุกรุก ถามว่าเราจะต้องทำยังไง เพราะไม่มีใครช่วย ทุกคนยืนดู ตนไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ เป็นความชอบธรรม เป็นสิทธิของตัวเอง ถ้าเป็นบ้านคุณจะทำยังไง คนที่จอดรถต้องมีจิตสำนึก ป้ายประกาศเตือนมีบอก ที่บอกว่าเป็นบ้านร้างพูดมาได้ยังไง เดี๋ยวต้องฟ้องหมิ่นประมาท
ถามว่ากระถางต้นไม้บ้านตนกีดขวางคนอื่นไหม นี่คือหมู่บ้าน เราสามารถเอาต้นไม้ประดับประดา เราปลูกเป็นแนวให้สวยงามหน้าบ้าน ปรากฏว่าต้นไม้ตายเรียบ กระถางถูกรถชนบ้างอะไรบ้าง จะมาบอกเป็นที่สาธารณะไม่ได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง ไม่ใช่ที่ทำตลาด หาบเร่แผงลอย เอาฟุตปาธมาทำหาบเร่ แผงลอย ทั้งที่จุดอื่นถูกเก็บเรียบ ถือว่าเจ้าหน้าที่ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่
คุณป้ายอมรับว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ที่ทุบรถทำเป็นครั้งแรก แต่ต้องเจอเหตุการณ์คนจอดขวางหน้าบ้านแบบนี้มาเกือบ 10 ปี ต้องรอซื้อของเสร็จ และครั้งนี้มันสุดวิสัย คนอื่นที่ให้ข่าวถีบรถยุบ เป็นการกล่าวหา แล้วคนถ่ายคลิปคือคนทำตลาด ตนฟ้องผู้ว่าฯ กทม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นตนไม่ได้มีเรื่องขัดแย้งกับตลาด แต่ทุกคนกำลังกล่าวหาว่าตนมีเรื่องกับตลาด
ป้ารักษาสิทธิอันชอบธรรมที่ป้าเดือดร้อน เป็นเวลาสิบกว่าปีนะ... ป้าใช้ความอดทน ใช้ธรรมะจริง ๆ ในการต่อสู้ตามตัวบทกฎหมาย ที่ใช้ในการปกครองบ้านเมือง" คุณป้าเจ้าของบ้าน กล่าว