x close

คุณหมอพลัดถิ่น ถูกหัวหน้ากลั่นแกล้งมาหลายปี เอาคืนสุดเจ็บแสบแบบไม่มีวันลืม

หมอพลัดถิ่นถูกหัวหน้ากลั่นแกล้ง

          คุณหมอชาวอินเดียเดินทางจากประเทศบ้านเกิด เข้าไปทำงานที่ออสเตรเลีย แต่ถูกกลั่นแกล้งรังแกจากหัวหน้ามานานหลายปี สุดท้ายขอเอาคืนอย่างเจ็บแสบ ชนิดที่ว่าไม่มีวันลืมเลยทีเดียว

          การกลั่นแกล้งรังแกกันเกิดขึ้นได้ทุกสังคม ตั้งแต่ที่โรงเรียน ตลอดจนถึงการทำงาน แทบจะทุกสาขาอาชีพ ย่อมมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งในวงการแพทย์ โดยเว็บไซต์ Bored Panda ได้เผยเรื่องราวของแพทย์ชาวอินเดียรายหนึ่ง ซึ่งยอมจากประเทศบ้านเกิด เดินทางไปทำงานยังต่างแดนที่ประเทศออสเตรเลีย แต่กลับได้รับการปฏิบัติที่ชวนให้น่าเศร้าใจมานานหลายปีด้วยกัน จนนำมาสู่การแก้แค้นที่แสนเจ็บแสบ

          หลานของคุณหมอชาวอินเดียรายดังกล่าว เป็นผู้ออกมาเล่าเรื่องราวนี้ผ่านทางเว็บไซต์ Reddit โดยเผยว่า คุณลุงของเขาเป็นแพทย์ชาวอินเดีย ในยุค 90 (พ.ศ. 2533-2543) ซึ่งขณะนั้นที่ประเทศออสเตรเลียขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมาก ทางรัฐบาลจึงเปิดรับแพทย์จากต่างแดน โดยจะให้สิทธิเป็นพลเมืองของประเทศ ทว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อแพทย์ที่จะเข้าไปทำงานที่ออสเตรเลียได้นั้น จะต้องสอบให้ผ่านถึง 3 ครั้งด้วยกัน การสอบนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากกว่าหลายพันดอลลาร์ และปีหนึ่งจัดสอบแค่ 2 ครั้งเท่านั้น อีกทั้งยังมีเงื่อนไขมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจำกัดสนามสอบ เวลา หรือข้อจำกัดอื่น ๆ ที่กำหนดขึ้นเองอย่างไร้เหตุผล
          ด้วยเหตุนี้ ทำให้แพทย์ชาวอินเดียหลายรายที่เข้ามาในประเทศออสเตรเลีย ต้องกลายเป็นคนขับรถแท็กซี่บ้าง ไปเปิดทำธุรกิจเล็ก ๆ บ้าง เป็นต้น แต่สำหรับลุงของเจ้าของเรื่องรายนี้ เขาไม่ยอมแพ้ ตัดสินใจเข้าเรียนที่โรงเรียนการแพทย์ในออสเตรเลีย เพื่อเป็นที่ยอมรับและสามารถประกอบอาชีพแพทย์ในประเทศนั้นได้จริง และแน่นอนว่า ด้วยประสบการณ์การเป็นแพทย์มายาวนานกว่า 10 ปี ทำให้การศึกษาในโรงเรียนแพทย์นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดาย และผลการเรียนของเขาก็ติดอันดับต้น ๆ ของชั้น

          อย่างไรก็ดี ภายหลังจากเรียนจบ เขาได้เลือกที่จะเป็นแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว แทนที่จะเป็นศัลยแพทย์ตามคำแนะนำส่วนใหญ่ของอาจารย์ ซึ่งในขณะนั้นก็มีแพทย์จากต่างแดนที่สิ้นหวัง ต้องยอมทำงานแพทย์ฝึกหัดเป็นจำนวนมาก โดยพวกเขาเหล่านี้จะได้รับการปฏิบัติเช่นคนไร้ค่า จากผู้ที่เป็นหัวหน้า จะถูกบังคับให้ทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้รับค่าจ้าง พวกเขาไม่มีเวลาได้ไปเข้าชั้นเรียน หรือเข้าสอบวิชาที่จำเป็น ยังไม่รวมถึงเวลากิน และเวลาพักผ่อน ที่แทบจะไม่มี พวกเขาจะต้องมาทำงานในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และหากไม่ทำตาม หัวหน้าก็จะเขียนรายงานแย่ ๆ ให้ และพวกเขาก็จะได้รับโทษ

          สำหรับลุงของทางเจ้าของเรื่อง เขาต้องไปทำงานในวันเสาร์ทุกครั้ง ทำให้เขาต้องยอมสละเวลาเข้าเรียน เพื่อมาทำงาน เขาเคยถูกตำหนิโทษที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มในราคาที่แพงจากคนไข้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ และที่แย่ที่สุดคือ เมื่อตอนที่ภรรยาของเขาป่วยหนักต้องเข้ารับการรักษาตัว ทางหัวหน้าที่เป็นเจ้าของคลินิกกลับไม่อนุญาตให้เขาได้มีเวลาพักเพื่อไปดูแลภรรยาและลูก โดยหัวหน้าของเขาเป็นคนผิวขาว ที่ชอบเหยียดเชื้อชาติอินเดีย เอเชีย และชาวพื้นเมืองในประเทศตัวเอง แม้คนไข้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวพื้นเมืองก็ตาม

          ภายหลังจากทนทำงานได้ 3 ปี ในที่สุดเขาได้ตัดสินใจลาออก ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ธนาคารเพื่อทำเรื่องกู้เงินมาเปิดคลินิกของตัวเอง ทางคนไข้เก่าทั้งหมดที่เคยรักษากับเขาตอนอยู่คลินิกเดิม ได้ตามมารักษากับเขาที่คลินิกใหม่ของเขา โดยในปีแรกสถานการณ์ดำเนินไปได้ค่อนข้างลำบาก แต่ด้วยความสามารถของเขาในการรักษาคนไข้ ทำให้ชื่อเสียงของเขาค่อย ๆ แพร่กระจายไปในวงกว้าง และเริ่มมีคนไข้มาหาเขามากขึ้นเรื่อย ๆ รวมไปถึงมีแพทย์รายอื่นสนใจอยากมาร่วมงานกับเขา 

          ภายในระยะเวลา 2 ปี คุณหมอชาวอินเดียรายนี้ มีคลินิกเป็นของตัวเอง มีแพทย์ปฏิบัติงาน 4 คน พยาบาล 2 คน และผู้ช่วยอีก 2 คน รวมทั้งมีผู้จัดการคอยดูแล แน่นอนว่า กิจการของเขาส่งผลให้เขากลายเป็นศัตรูกับหัวหน้าคนเก่า แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ หลังจากนั้น เขาสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนเปิดคลินิกเพิ่มได้อีก 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคลินิกของหัวหน้าเก่าเพียงแค่ 2 กิโลเมตร และเขาก็มีการโฆษณาอย่างหนัก เพื่อให้คนไข้มารับการรักษากับเขามากกว่า

          ที่คลินิกของหัวหน้าเก่าของเขา แต่เดิมเคยมีแพทย์ปฏิบัติงาน 6 คน พยาบาล 4 คน และผู้ช่วยอีก 6 คน แต่ภายหลังจากผ่านไป 5 ปี ทุกคนก็ลาออกไปหมด เหลือเพียงหัวหน้าเก่าของเขาเพียงลำพัง ทำให้สุดท้ายเขาต้องประกาศขายกิจการ แต่โชคไม่ดี ไม่มีใครรับซื้อต่อ และด้วยเหตุนี้ ยิ่งทำให้กิจการคลินิกของคุณหมอชาวอินเดียพลัดถิ่นรายนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และหัวหน้าเก่าของเขาก็พยายามเสนอขายคลินิกหลังเก่าให้ในราคาที่ต่ำมาก แต่เขาเลือกที่จะปฏิเสธ รอให้ธนาคารยึดไปก่อน ก่อนที่จะซื้อต่อจากธนาคารมาอีกที ทำให้เขาได้กำไรจากตรงส่วนนี้มานิดหน่อย

          ภายหลังจากจัดการซื้อมาแล้ว คุณหมอรายนี้ได้ทำการเปลี่ยนตึกที่ทำการคลินิกหลังเดิมของหัวหน้าเก่า ให้กลายเป็นออฟฟิศสำนักงานสำหรับการจัดการกิจการคลินิกทั้ง 3 สาขา และความปรารถนาสุดท้ายของเขา ก็คือความตั้งใจว่า จะเปลี่ยนห้องทำงานของหัวหน้าเก่าเขาให้กลายเป็นห้องส้วมของพนักงาน เพื่อเป็นการระลึกถึงครั้งสุดท้ายให้กับเจ้านายเก่าของเขา

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คุณหมอพลัดถิ่น ถูกหัวหน้ากลั่นแกล้งมาหลายปี เอาคืนสุดเจ็บแสบแบบไม่มีวันลืม อัปเดตล่าสุด 19 มีนาคม 2561 เวลา 17:48:19 40,986 อ่าน
TOP