เปิดภาพบ้านพักตุลาการดอยสุเทพ มีรถเบนซ์จอดเพียบ ไหนว่ามีแต่ข้าราชการชั้นผู้น้อย ทวงสัญญานายกฯ ไม่ให้ใครเข้ามาอยู่ ยืดเยื้อมา 4 เดือน ขู่มวลชนเชียงใหม่เคลื่อนไหวแน่
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 เฟซบุ๊ก ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้เผยภาพอาคารชุด 3 ชั้น มีจำนวนห้องเพียง 8 ห้อง ภายในพื้นที่บ้านพักตุลาการดอยสุเทพ ซึ่งที่จอดรถของอาคารนี้มีรถเบนซ์จอดอยู่ 4 คัน
![บ้านพักตุลาการดอยสุเทพ]( "บ้านพักตุลาการดอยสุเทพ")
และวันที่ 18 กรกฎาคม 2561 ทางเฟซบุ๊ก เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้โพสต์ภาพรถกระบะกำลังขนต้นหญ้าเพื่อนำไปปลูกในพื้นที่บ้านพักตุลาการศาลดอยสุเทพ ซึ่งทางเพจระบุว่า แม้จะปลูกต้นหญ้าอย่างไร หากต้นหญ้าไม่ตาย ก็คงถูกน้ำป่ากวาดไหลลงมากองรวมกันหมด เพราะการก่อสร้างนั้นมีการเปิดหน้าดินจนเสียหาย
นอกจากนี้ ทางเพจยังทวงสัญญาที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุไว้ว่า เดือนพฤษภาคม 2561 จะไม่ให้ใครเข้าไปพักอาศัย แต่บัดนี้ล่วงเลยมาจนเดือนกรกฎาคมแล้ว ทางเครือข่ายจะต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าที่ภาครัฐจะทำตามสัญญา
ขณะที่ เว็บไซต์ one31 รายงานว่า คณะอนุกรรมการของจังหวัด มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานรัฐและเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เพื่อพิจารณาร่างรายงานการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเบื้องต้น ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางเลือกการจัดการพื้นที่ในส่วนของอาคารชุด 9 หลัง ดังนี้
1. รื้อถอนอาคารชุด 9 หลัง และสาธารณูปโภคในพื้นที่ออก เร่งรัดฟื้นฟูป่าโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน
ซึ่งทางตัวแทนเครือข่ายฯ ได้เรียกร้องแก้ไขข้อเสนอในทางเลือกที่ 2 โดยต้องรื้อบ้าน 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง โดยทางที่ประชุมได้แก้ไขคือ ดำเนินการจัดการอาคารตามความเหมาะสม โดยไม่มีผู้พักอาศัยหรือใช้ประโยชน์ เร่งรัดการฟื้นฟูโดยกำหนดเวลาชัดเจนเพื่อให้เป็นป่าที่สมบูรณ์
ทั้งนี้หลังแก้ไขร่างรายงานการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างแล้วเสร็จ จะนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ระดับจังหวัดพิจารณา และส่งให้คณะกรรมการระดับชาติตัดสินใจต่อไป
ด้าน นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า คณะอนุกรรมการได้ข้อสรุปแล้วว่า ต้องมีการรื้อบ้านพัก 45 หลังเด็ดขาด ส่วนอาคารชุด 9 หลังจะรื้อเป็นลำดับถัดไปเพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ
สำหรับกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานผู้เข้าไปอาศัยในบ้านพักและอาคารชุดที่มีข้อพิพาท แต่บ้านพัก 45 หลัง ยังไม่มีผู้เข้าไปอาศัย ส่วนอาคารชุดที่มีคนเข้าไปอาศัยแล้วนั้น ได้ตกลงกันว่าหากมีการก่อสร้างใหม่ ต้องย้ายออกไป
นายธีระศักดิ์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนว่า จะไม่ให้มีเข้าไปอยู่อาศัย เครือข่ายฯ จึงอยากให้นายกฯ ทำตามข้อตกลงที่พูดไว้ จะอ้างว่าขอให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยอยู่ไปก่อนจนกว่าจะสร้างหลังใหม่ ไม่รู้ว่าการฟื้นฟูจะเกิดขึ้นเมื่อใด จึงอยากให้นายกฯ รักษาคำพูด และย้ายข้าราชการที่อาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลัง มาอยู่ในอาคารชุด 4 หลังรวมกว่า 40 ห้อง ที่ไม่ถูกรื้อ ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลัง ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง
กรณีข่าวบ้านพักตุลาการดอยสุเทพนั้น หลังจากที่กลุ่มขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพออกมาเรียกร้อง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ได้ออกคำสั่งแล้วว่าไม่ให้ใครเข้าอยู่ แต่ต่อมากลับมีภาพหมู่บ้านดังกล่าวเปิดไฟ ซึ่งมีการอ้างว่าทดสอบระบบไฟ และมีการตากผ้า ซึ่งทางสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาบอกว่า คนที่เข้าไปอยู่อาศัยนั้นเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย และเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561 ทางเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้ขีดเส้นตายให้คนที่เข้าอยู่ในหมู่บ้านตุลาการต้องย้ายออกทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะนัดรวมตัว ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : ขีดเส้นตาย กลุ่มขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ จี้ 18 มิ.ย. ต้องย้ายออกทั้งหมด]
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 เฟซบุ๊ก ขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ได้เผยภาพอาคารชุด 3 ชั้น มีจำนวนห้องเพียง 8 ห้อง ภายในพื้นที่บ้านพักตุลาการดอยสุเทพ ซึ่งที่จอดรถของอาคารนี้มีรถเบนซ์จอดอยู่ 4 คัน
ทั้งนี้ทางเพจยังรายงานอีกด้วยว่า ตามสัญญาการก่อสร้างบ้านอธิบดีผู้พิพากษานั้น มีการระบุเนื้อที่ไม่เกิน 155 ตารางเมตร และราคาต่อหลังไม่เกิน 1.6 ล้านบาท ซึ่งทางเครือข่ายฯ และคณะอนุกรรมการของจังหวัดได้ขอแบบแปลนไป แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง โดยผู้เชี่ยวชาญประเมินจากภาพถ่ายแล้วประเมินว่าเนื้อที่มีขนาดเกิน 155 ตารางเมตร และอาจจะใหญ่ถึง 300 ตารางเมตรด้วยซ้ำ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมไม่เคยเปิดเผยแบบแปลนให้กับสาธารณะได้เห็น
นอกจากนี้ ทางเพจยังทวงสัญญาที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุไว้ว่า เดือนพฤษภาคม 2561 จะไม่ให้ใครเข้าไปพักอาศัย แต่บัดนี้ล่วงเลยมาจนเดือนกรกฎาคมแล้ว ทางเครือข่ายจะต้องรออีกนานแค่ไหนกว่าที่ภาครัฐจะทำตามสัญญา
ขณะที่ เว็บไซต์ one31 รายงานว่า คณะอนุกรรมการของจังหวัด มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานรัฐและเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เพื่อพิจารณาร่างรายงานการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเบื้องต้น ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางเลือกการจัดการพื้นที่ในส่วนของอาคารชุด 9 หลัง ดังนี้
1. รื้อถอนอาคารชุด 9 หลัง และสาธารณูปโภคในพื้นที่ออก เร่งรัดฟื้นฟูป่าโดยกำหนดเวลาที่ชัดเจน
2. ยังไม่รื้ออาคารชุด 9 หลัง และเร่งรัดฟื้นฟู โดยกำหนดเวลาชัดเจนในการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เหมาะสม หรือกลับเป็นป่าเหมือนเดิม
ทั้งนี้หลังแก้ไขร่างรายงานการศึกษาการดำเนินการในส่วนของสิ่งปลูกสร้างแล้วเสร็จ จะนำเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ระดับจังหวัดพิจารณา และส่งให้คณะกรรมการระดับชาติตัดสินใจต่อไป
ด้าน นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ แถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า คณะอนุกรรมการได้ข้อสรุปแล้วว่า ต้องมีการรื้อบ้านพัก 45 หลังเด็ดขาด ส่วนอาคารชุด 9 หลังจะรื้อเป็นลำดับถัดไปเพื่อเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ
สำหรับกรณีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานผู้เข้าไปอาศัยในบ้านพักและอาคารชุดที่มีข้อพิพาท แต่บ้านพัก 45 หลัง ยังไม่มีผู้เข้าไปอาศัย ส่วนอาคารชุดที่มีคนเข้าไปอาศัยแล้วนั้น ได้ตกลงกันว่าหากมีการก่อสร้างใหม่ ต้องย้ายออกไป
นายธีระศักดิ์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนว่า จะไม่ให้มีเข้าไปอยู่อาศัย เครือข่ายฯ จึงอยากให้นายกฯ ทำตามข้อตกลงที่พูดไว้ จะอ้างว่าขอให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยอยู่ไปก่อนจนกว่าจะสร้างหลังใหม่ ไม่รู้ว่าการฟื้นฟูจะเกิดขึ้นเมื่อใด จึงอยากให้นายกฯ รักษาคำพูด และย้ายข้าราชการที่อาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลัง มาอยู่ในอาคารชุด 4 หลังรวมกว่า 40 ห้อง ที่ไม่ถูกรื้อ ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารชุด 9 หลัง ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการระดับสูง
นายธีระศักดิ์ บอกด้วยว่า หากรัฐบาลตัดสินใจในทางที่ขัดแย้งกับข้อเรียกร้องนั้น ตนเชื่อว่าชาวเชียงใหม่จะออกมาเคลื่อนไหวกันอีกแน่นอน หากรัฐบาลไม่รีบตัดสินใจ เรื่องอาจจะบานปลาย ซึ่งทางเครือข่ายฯ ก็อยากจะจบปัญหานี้ แต่ก็ยืดเยื้อมากว่า 4 เดือนแล้ว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
