หนุ่มภูเก็ตโพสต์คลิปโวยตำรวจ เจอตั้งด่านจับตอนตีหนึ่ง โดนเรียกเพราะไม่สวมหมวกกันน็อก แถมจะยึดรถ-ใบขับขี่ เพราะไม่มีคู่มือจดทะเบียน ถามกลับ ทีคนอื่นซ้อนสามทำไมไม่จับ ตั้งด่านแบบนี้ มีใบอนุญาตหรือไม่
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lookball Oongthongin
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2561 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Lookball Oongthongin ได้โพสต์คลิปแชร์ประสบการณ์ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกลางดึก ฐานไม่สวมหมวกกันน็อก และเชิญตัวไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งชายหนุ่มผู้โพสต์ไม่พอใจอย่างมาก ตั้งข้อสงสัยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมกับถามไปว่า ตั้งด่านแบบนี้ มีใบอนุญาตหรือไม่
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณด่านบนถนนสายหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ชายหนุ่มไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่เรียกให้ตนหยุดรถจักรยานยนต์ กล่าวว่าคันอื่น ๆ 3-4 คันที่ผ่านมา ก็ไม่สวมหมวกกันน็อกเช่นกัน ทำไมถึงเลือกปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ก็ตอบไปว่าสงสัยคันนี้ เพราะไม่มีคู่มือจดทะเบียนรถ ชายหนุ่มจึงยื่นเอกสารฉบับหนึ่งให้ไป กล่าวว่าทางศูนย์ฯ ออกให้ตน สามารถใช้ได้ เพราะเป็นเอกสารแทน แต่เจ้าหน้าที่ยืนกรานว่าใช้ไม่ได้ ต้องใช้คู่มือฉบับจริง และจะเชิญตัวไปโรงพัก ชายหนุ่มก็โวยกลับไป กล่าวว่าจะไม่ขึ้นรถตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่า ถ้าไม่ยอมไป คงจะต้องยึดรถจักรยานยนต์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lookball Oongthongin
ขณะรอเจ้าหน้าที่เขียนค่าปรับ ชายหนุ่มก็บ่นว่า ตำรวจไม่เป็นธรรมกับประชาชน จับแต่คนดื่มน้ำใบกระท่อม ไม่ไปจับโจร เขายอมรับว่าขับรถป้ายแดง แต่ทำงานกลางคืน จำเป็นต้องใช้รถคันนี้ ไม่อย่างนั้นก็ไปทำงานไม่ได้ นอกจากนี้แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีคนร้ายถือมีดแถวนี้ แต่ตำรวจกลับไม่จับ อ้างว่าจับไม่ทัน เขากล่าวอีกว่า ตัวเองได้ถามหาใบอนุญาตตั้งด่านจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่าไม่มี ถ้าอยากดู ให้ไปดูที่โรงพัก ซึ่งเขามองว่าไม่เป็นธรรม เพราะผู้ใช้รถใช้ถนนต้องพกพาใบขับขี่ แต่ตำรวจมาตั้งด่าน กลับไม่ต้องมีใบอนุญาต
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Lookball Oongthongin
ทั้งนี้หลังจากที่คลิปเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตก็วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานาว่าใครผิดใครถูกกันแน่ หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจับชายหนุ่มผู้โพสต์ เนื่องจากรถจักรยานยนต์ของเขาเป็นคันใหม่ป้ายแดง ยังไม่มีเอกสารคู่มือจดทะเบียน และเขาก็มีเอกสารการเสียภาษีถูกต้องแล้ว พร้อมกับคำถามว่าทำแบบนี้เป็นด่านลอยขูดรีดประชาชนหรือไม่ เพราะแค่ตักเตือนก็น่าจะเพียงพอแล้ว