พ่อแม่ใจสลาย นศ. สาวอนาคตไกล เป็นเหยื่อแก๊งเดนนรก รุมโทรม-ทุบหัว ก่อนฆ่าทิ้ง

          เปิดคดีช็อก นักศึกษาสาว วัย 21 ปี ถูกแก๊งเดนนรกจี้ ลักพาตัวไปรุมข่มขืน และฆ่าทิ้ง ส่วนเพื่อนชายถูกทำร้ายสาหัสปางตาย รายงานเผย เป็นเด็กสาวอนาคตสดใส เรียนเก่ง และเป็นความหวังของครอบครัว

          เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ปีที่แล้ว โดยในวันนั้น ฮันนาห์ และ เชสลิน มาร์ช วัย 22 ปี เพื่อนชายที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ได้นัดออกไปเที่ยวด้วยกัน ด้วยความที่ฮันนาห์ขับรถเป็น และเธอก็มีรถ VW Golf ที่ย่าซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เธอจึงทำหน้าที่เป็นสารถีตลอดทั้งวัน หลังจากไปเที่ยวกันเสร็จ เชสลินบอกให้ฮันนาห์กลับบ้านได้เลย เพราะเขาจะกลับบ้านเองด้วยสเกตบอร์ด แต่ฮันนาห์ปฏิเสธ อาสาไปส่งเขาที่บ้าน เพราะตอนนั้นมันดึกมากแล้ว ประมาณ 03.00 น. และเธอก็เป็นห่วงเชสลิน
          ข้อมูลจากเว็บไซต์นิวส์ทเวนตี้โฟร์ ระบุว่า ฮันนาห์ได้ขับรถมาจอดที่หัวมุมถนนเบิร์ด ไม่ไกลจากสวนสาธารณะ ย่านเซลลิเยียร์ ในพื้นที่เมืองสเตลเลนบอช ทางตะวันตกเฉียงใต้ของแอฟริกาใต้ ขณะที่เธอกับเชสลินนั่งคุยกันนั้น อยู่ดี ๆ ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 คน เข้ามาล้อมตัวรถเอาไว้

          ชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ได้ใช้ไขควงทุบกระจกรถแล้วกระชากประตูเปิดออก ผู้ชายคนหนึ่งใช้มีดจ่อที่คอของเชสลิน สั่งให้เขานั่งเฉย ๆ ไม่งั้นฮันนาห์จะกลายเป็นศพ พวกมันสั่งให้เชสลินเปิดกระเป๋าส่งเงินมาให้ เชสลินรีบทำตามคำสั่งด้วยความกลัว และเอาเงินทั้งหมดที่มีให้คนร้ายไป แต่มันไม่จบแต่เพียงแค่นั้น กลุ่มคนร้ายลากตัวเชสลินออกมาจากที่นั่ง แล้วจับเขายัดลงไปในกระโปรงด้านหลังตัวรถ พวกมันขึ้นมานั่งในรถ คนหนึ่งนั่งที่คนขับ อีกนั่งข้าง ๆ ส่วนอีก 2 คน นั่งประกบฮันนาห์อยู่ตรงเบาะหลัง
          ส่วนฮันนาห์นั้น เธอถูกลากตัวเข้าไปในพุ่มไม้รก ๆ ในพื้นที่ไร่องุ่น และถูกรุมข่มขืน เมื่อพวกมันผลัดกันกระทำชำเราเธอจนสาแก่ใจแล้ว ก็ได้ช่วยกันทุบหัวฮันนาห์จนกระโหลกศีรษะร้าว จัดการฆ่าเธอด้วยการใช้มีดจ้วงแทงเข้าที่ลำคอ และเอาศพไปโยนทิ้งข้างถนน หลังเกิดเหตุไม่นาน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบศพฮันนาห์ สภาพศพของเธอบอบช้ำมาก เต็มไปด้วยร่องรอยการถูกทำทารุณอย่างโหดร้าย

          ทางด้าน เชสลิน แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บรุนแรงมาก แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเขาฟื้นคืนสติ เขาฝืนลากร่างตัวเองไปขอความช่วยเหลือที่บ้านคนแถว ๆ นั้น และขอให้แจ้งตำรวจเรื่องฮันนาห์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด และสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด


          สำหรับชีวิตของฮันนาห์นั้น เธอเกิดและเติบโตในครอบครัวนักกฎหมาย โดย วิลเลม คอร์นีเลียส พ่อของเธอ ทำงานเป็นผู้พิพากษาศาลแขวงในพื้นที่ ส่วน แอนนา แม่ของเธอ ประกอบอาชีพทนายความ ฮันนาห์เป็นเด็กสาวที่ร่าเริงสดใส และเป็นคนที่นำพารอยยิ้มมาสู่ทุกคนรอบตัวเธอ เธอกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ในคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสเตลเลนบอช และเธอก็เรียนเก่งมากอีกด้วย ได้เกรดเอในแทบทุกรายวิชา สร้างความภาคภูมิใจให้กับพ่อแม่เป็นอย่างมาก อนาคตของฮันนาห์สดใส และมีแววว่าจะไปได้ดีอย่างมาก แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้ว

          ตอนที่ครอบครัวรับรู้โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับฮันนาห์ พวกเขาก็รู้สึกเหมือนกับถูกฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านพ้นไปกว่า 1 ปี แล้ว แต่พ่อแม่ของเธอยังคงจมอยู่ในความโศกเศร้า เพราะการสูญเสียลูกสาวที่รักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ มันเป็นเรื่องที่สามารถทำใจให้ยอมรับได้ยากเหลือเกิน

          อีกคนที่เป็นทุกข์ไม่แพ้ครอบครัวฮันนาห์ก็คือ เชสลิน สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาและฮันนาห์ คือฝันร้ายดำมืดที่จะหลอกหลอนเขาไปตลอดชีวิต แม้ว่าเขาจะรอดชีวิตมาได้ แต่ร่างกายของเขาก็ต้องใช้เวลานานในการเยียวยารักษา เขาต้องกลายเป็นคนพิการหูหนวก เพราะหูข้างหนึ่งของเขาได้รับบาดเจ็บหนักจนไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป


          แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่าความเจ็บปวดทางกายก็คือความรู้สึกทางใจ เชสลินไม่สามารถกลับไปเรียนต่อ เพราะสภาพจิตใจของเขาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก และเมื่อถึงการพิจารณาคดีในชั้นศาล เชสลินต้องรื้อฟื้นความทรงจำอันเลวร้าย และให้การทั้งน้ำตา

          กลุ่มคนร้าย 4 คน ที่ก่อเหตุดังกล่าว ทราบชื่อคือ เวอร์นอน วิตบูยี อายุ 33 ปี, เคราร์โด พาร์สัน อายุ 27 ปี, แนชวิลล์ จูเลียส อายุ 29 ปี และ เอเบน ฟาน เนียแบร์ก อายุ 28 ปี ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาหนัก 4 ข้อหา คือ ลักทรัพย์ ลักพาตัว ข่มขืนกระทำชำเรา และฆาตกรรม นอกจากนี้แล้ว ทั้ง 4 คน ยังเคยมีประวัติก่ออาชญากรรมมาอย่างโชกโชน ทั้งมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ลักรถ และตระเวนลักทรัพย์มาแล้วมากมาย ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ของแก๊งนี้ เป็นผู้หญิง


          สำหรับคดีนี้ ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายทั้ง 4 คน จะถูกลงโทษสถานใดบ้าง เนื่องจากกำลังอยู่ในการพิจารณาคดีในชั้นศาล