ป.ป.ช. แจง นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้ช่วยเลขาฯ ป.ป.ช. ชักปืนขู่แท็กซี่กลางศูนย์ราชการ เป็นความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่ พร้อมสั่งสอบข้อเท็จจริงให้กระจ่างใน 15 วัน
วันที่ 17 ตุลาคม 2561 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีข้าราชการระดับสูงของ ป.ป.ช. มีรูปพรรณคล้ายกับนายพิเศษ นาคะพันธ์ุ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีพฤติการณ์ขับรถปาดหน้าพร้อมกับบีบแตรรถใส่กัน จนสุดท้ายมีการลงจากรถและชักปืนเล็งข่มขู่ผู้ขับขี่ที่ขับรถตามหลังมานั้น
ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายพิเศษ นาคะพันธ์ุ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. จริง และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งให้นายพิเศษ รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ในเบื้องต้นเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ข้อเท็จจริงครบถ้วนรอบด้าน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว โดยมี นางณัชชา เกิดศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกรรมการ โดยให้สอบข้อเท็จจริงและรายงานผลการตรวจสอบให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
วันที่ 17 ตุลาคม 2561 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีข้าราชการระดับสูงของ ป.ป.ช. มีรูปพรรณคล้ายกับนายพิเศษ นาคะพันธ์ุ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีพฤติการณ์ขับรถปาดหน้าพร้อมกับบีบแตรรถใส่กัน จนสุดท้ายมีการลงจากรถและชักปืนเล็งข่มขู่ผู้ขับขี่ที่ขับรถตามหลังมานั้น
ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายพิเศษ นาคะพันธ์ุ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. จริง และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งให้นายพิเศษ รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ในเบื้องต้นเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่แต่อย่างใด
ภาพจาก เฟซบุ๊ก เฮียขับรถ
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ข้อเท็จจริงครบถ้วนรอบด้าน เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว โดยมี นางณัชชา เกิดศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานกรรมการ โดยให้สอบข้อเท็จจริงและรายงานผลการตรวจสอบให้เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบภายใน 15 วัน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป