พี่เขยแม่เลี้ยง ยังยืนยันน้องสาวไม่ใช่โรคจิต ไม่ได้เป็นคนทุบตีลูกเลี้ยงวัย 14 ปี - อดีตเพื่อนร่วมงานแม่เลี้ยง เผย แม่เลี้ยงเป็นคนทำงานดี แต่ขี้วีน ชอบโวยวายเสียงดัง
ความคืบหน้าคดีเด็กชาย อายุ 14 ปี
ปั่นจักรยานหนีออกจากบ้านเพื่อหวังตามหาแม่ที่ต่างจังหวัด
หลังทนไม่ไหวถูกแม่เลี้ยงทำร้ายทุบตี
จนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นายอัครเศรษฐ์พร
เชิญสุวรรณรัตน์ พ่อแท้ ๆ และนางสาวนรินทร แขกกาฬ แม่เลี้ยง ได้แล้ว
พร้อมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ
หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น
หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
และกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่ตัวแม่เลี้ยงให้การปฏิเสธ
ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : พ่อแท้ ๆ ด.ช. วัย 14 ป้องแม่เลี้ยง
สารภาพตีลูกคนเดียว - แม่เลี้ยงปัดกล้องนักข่าว)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (17
ตุลาคม 2561) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์ นายสกล
เกศตุสุวรรณ พี่เขยของนางสาวนรินทร แม่เลี้ยงเด็ก 14 เปิดเผยว่า
ตนเองยังคงยืนยันว่าน้องสาวไม่ใช่โรคจิตที่ทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยงตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้
ยืนยันตามเดิมว่ารอยบาดแผลตามตัวเด็กนั้น อาจจะเกิดจากน้ำเหลืองไม่ดี
ซึ่งตัวน้องสาวตนก็เคยพาไปรักษาด้วยซ้ำ เสียเงินรักษา
ถ้าน้องสาวตนก่อเหตุเขาจะพาไปรักษาทำไม ส่วนรอยไม้บรรทัดหรือรอยอื่น ๆ
เชื่อว่าคือฝีมือของพ่อและย่าเด็กเอง
ทั้งนี้ ตนจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายกับสื่อ เพราะก่อนหน้านี้ที่ให้สัมภาษณ์ ตนกลับเป็นฝ่ายถูกโจมตี ซึ่งส่งผลกระทบกับตนและครอบครัว
ขณะที่
นางดารารัตน์ แก้วสลับสี เจ้าหน้าที่ พม. เปิดเผยว่า
จากการสอบปากคำเด็กชาย เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวถูกปิดกั้นในการเล่นโซเชียล
จนไม่สามารถที่จะติดต่อหาแม่ได้ผ่านทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ
จึงยังไม่แน่ใจว่าภาพถ่ายหรือข้อความบอกรักแม่เลี้ยงที่แพร่ออกไปนั้น
เด็กชายเป็นคนโพสต์เองหรือไม่
อย่างไรก็ตาม
จากการตรวจสอบไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
ที่ทำงานของนางสาวนรินทร
พบว่าเจ้าตัวได้ลาออกจากการทำงานที่ดังกล่าวแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
อดีตเพื่อนร่วมงาน เปิดเผยว่า นางสาวนรินทร
เป็นคนทำงานดี ไม่แย่ มาตรงเวลา แต่นิสัยปกติที่เห็น จะมีพฤติกรรมชอบโวยวาย
พูดเสียงดังในที่ทำงาน ซึ่งกรณีที่ตกเป็นข่าว
ส่วนตัวไม่เคยเห็นพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย
และไม่เคยเห็นพาลูกชายมาที่ทำงานด้วย
ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก