สาวเปิดใจชัด ไม่ได้หนีหนี้ นัท โอนไว ที่หายไปเพราะหลับ รับแอบเอารูปคนอื่นมาใช้

          สาวคู่กรณี นัท โอนไว เปิดใจผ่านรายการต่างคนต่างคิด ยันไม่ได้คิดหนีหนี้ คืนเงินแน่นอน แค่รอเวลาหมุนเงิน ที่ติดต่อไม่ได้เพราะหลับ ไม่ได้หนี รับเอารูปคนอื่นมาใช้ในเฟซบุ๊กจริง ถ้าอีกฝ่ายอยากเจอตัวจริงก็ยินดี แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อม
          จากกรณีที่ นายสรฉัตร ผลวัฒนา นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของฉายา นัท โอนไว ผู้เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ หลังจากถูกสาวในแอปพลิเคชันหาคู่ หลอกให้โอนเงินไปให้เกือบ 1 แสนบาท จนกลายเป็นคดีความขึ้นมา และล่าสุด เจ้าตัวถูกหลอกให้โอนเงินอีกครั้ง ซึ่งสาวที่หลอกในครั้งนี้ก็ไม่ตรงปกเหมือนเดิม จนสังคมตั้งคำถามด้วยความสงสัยว่าทำไมถึงโดนหลอกง่ายแบบนี้ ซึ่งเพื่อน ๆ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า นายสรฉัตรเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น และประสบอุบัติเหตุทำให้คิดอะไรช้า จึงทำให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ง่าย ๆ

อ่านข่าว

- เปิดตัวตน นัท โอนไว เป็นคนดี ขี้สงสาร เพื่อนเผยคิดช้าเพราะอุบัติเหตุ ใครพูดอะไรก็เชื่อ

- เผยโฉมสาวหลอกเงิน นัท โอนไว คนล่าสุด ตัวจริงไม่ตรงปก ยันจะคืนเงินให้

           สำหรับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นนี้ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2561 รายการต่างคนต่างคิด ทางช่องอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับนายสรฉัตร เกี่ยวกับที่มาที่ไปของการโอนเงินให้หญิงสาวครั้งล่าสุด โดยนายสรฉัตรเล่าว่า รู้จักกับหญิงสาวคนนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กประมาณ 2-3 วัน ก่อนเกิดเหตุ หญิงสาวบอกตนว่าชื่อ ครีม พักอาศัยอยู่แถว ๆ ย่านพระราม 9  และอ้างกับตนว่ามีรีสอร์ต 7 ห้อง ที่ จ.กาญจนบุรี หลังจากนั้นก็แลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กัน และได้คุยกันผ่านทางไลน์ด้วย แต่ครีมไม่เคยเปิดกล้องวิดีโอคอลกับตน อ้างว่ากล้องโทรศัพท์เสีย

           ต่อมาในวันที่ 11 ธันวาคม ครีมได้เอ่ยปากขอยืมเงินตน อ้างจะเอาไปใช้จัดการธุระที่รีสอร์ต และจะคืนให้ภายในสิ้นเดือน ตนไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะทราบว่าอีกฝ่ายไม่มีพ่อแม่ คงอับจนหนทาง ไม่รู้จะไปหาเงินมาจากที่ไหน ตนจึงโอนไปให้รอบแรก 20,000 บาท และโอนตามไปให้อีก 5,000 บาท ภายในวันเดียวกัน แต่ครีมก็ขอยืมเงินอีก เพราะเรื่องที่รีสอร์ตยังไม่เรียบร้อย ตนก็โอนไปอีก 10,600 บาท นายสรฉัตร เผยว่า ตนก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมถึงขอยืมเงินหลายครั้งในวันเดียว แต่ก็เชื่อว่าอีกฝ่ายจะคืนเงินให้ อีกทั้งยังบอกว่าจะนำโทรศัพท์ iPhoneX ไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ตน อาจจะได้ประมาณ 8,000-9,000 บาท

           หลังจากนั้น นายสรฉัตรได้ถามครีมว่า ทำไมชื่อในเฟซบุ๊กกับชื่อในบัญชีธนาคารไม่ตรงกัน ครีมก็อ้างว่า เป็นบัญชีธนาคารของคนอื่น ไม่ได้พกบัตรติดตัว และขอเวลาไปดูแลยายที่ป่วย ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง นายสรฉัตรได้โทร. ไปหาครีม แต่พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อทักแชตเฟซบุ๊กไป อีกฝ่ายก็ไม่ตอบ แต่เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่เป็นข่าวในเฟซบุ๊กของเพจดัง ครีมก็ติดต่อมาหานายสรฉัตร ขอร้องให้ไปบอกเพจดังกล่าวว่ากำลังจะนำเงินมาคืนแล้ว ส่วนนายสรฉัตรก็กล่าวขอโทษที่ใจร้อนเกินไป

          ทางด้าน ครีม หรือ น้องแบม หญิงสาวที่ยืมเงินนายสรฉัตร ก็ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับรายการต่างคนต่างคิด ว่า ตนตัดสินใจยืมเงินนายสรฉัตร เพราะในระหว่างที่คุยกันมันได้จังหวะพอดี ตนเลยลองยืมเงินดู ปรากฏว่าอีกฝ่ายก็โอนเงินมาให้จริง ๆ ตนได้ตกลงกับนายสรฉัตรตั้งแต่แรกแล้วว่าจะคืนเงินแน่นอน และบอกมาตลอดว่าจะคืนเงินให้ สำหรับบัญชีที่รับโอนนั้นเป็นบัญชีของคนในบ้าน ส่วนเฟซบุ๊กที่ใช้ ก็เป็นเฟซบุ๊กที่สมัครเอาไว้ขายของออนไลน์ ตนยอมรับว่ารูปในโปรไฟล์ไม่ใช่รูปของตน เป็นรูปคนของในเฟซบุ๊ก เจ้าของรูปไม่ทราบว่าตนเอารูปไปใช้ เพราะตนเอามาโดยไม่ได้ขออนุญาต

          เรื่องที่ว่าขาดการติดต่อกับนายสรฉัตรนั้น ตอนที่อีกฝ่ายติดต่อมา ตนกำลังหลับอยู่ และไม่ได้ตอบแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้หายไป ครีม กล่าวอีกว่า ต่อมาตนพบว่าเพจดังในเฟซบุ๊กได้แชร์ว่าตนเป็นมิจฉาชีพ ตนจึงติดต่อไปพูดคุยกับนายสรฉัตร และขณะนี้ได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว สำหรับเงินที่ยืมไป หากว่าถ้าหมุนเงินได้แล้วก็จะรีบโอนคืนให้ และตนก็ได้พูดคุยกับพ่อแม่ของอีกฝ่ายแล้ว ถ้าหากวันจันทร์ไม่ได้เงินคืน ตนยินยอมให้แจ้งความ ยืนยันว่าจะคืนให้ครบทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์

          ครีม กล่าวอีกว่า จริง ๆ แล้วตนเดือดร้อนเงินประมาณ 30,000-40,000 บาท แต่เงินที่ยืมไป ยอมรับว่าไม่ได้เอาไปใช้จัดการธุรกิจครอบครัวทั้งหมด เพราะเอาไปใช้จ่ายส่วนตัวด้วย สำหรับนายสรฉัตร ถ้าหากอยากเจอตัวจริงหลังจากได้รับเงินคืนแล้ว ตนก็ยินดีไปพบ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมไปเจอ ขอหาเงินให้ครบก่อน


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก