โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลไม่ได้มีนโยบายตัดลดงบ บัตรทอง แต่กลับเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุม ชี้ บิ๊กตู่ สั่งบริหารงบให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
ภาพจาก รัฐบาลไทย
วันที่ 17 สิงหาคม 2562 มีรายงานว่า ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยยืนยันว่า ครม. อนุมัติงบกองทุนบัตรทอง ปี 2563 กว่า 1.91 แสนล้านบาท เพิ่มเม็ดเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จากปี 2562 กว่า 6.5 พันล้านบาท เป็นงบเหมาจ่ายรายหัว 3,600 บาท เพิ่มสิทธิประโยชน์ปี 2563 ในการเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขอย่างครอบคลุม และมีคุณภาพและมาตรฐาน ทั้งเพิ่มการฉีดวัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็ก การคัดกรองมะเร็งลำไส้ การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจยีน การผ่าตัดทางกล้องช่วยลดเวลาที่ต้องนอนในโรงพยาบาล เพิ่มยาป้องกันโรคเอดส์ และเพิ่มการล้างไตทางหน้าท้องด้วยเครื่องที่บ้านให้กับผู้ป่วยที่ต้องล้างไต
ศาสตราจารย์นฤมล กล่าวว่า ครม. อนุมัติงบประมาณตามที่ สปสช. เสนอ แต่ให้ไปตกลงรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ จึงอาจทำให้ทางภาคประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าจะต้องใช้ตัวเลขของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงในวันมอบนโยบายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุข เน้นการบริหารงบประมาณปี 2563 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปรับระบบบริการ ลดความแออัด ให้ประชาชนมีทางเลือกในการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการนัดแพทย์ผ่านระบบแอปพลิเคชัน เพื่อลดเวลารอคิวที่โรงพยาบาลด้วย
ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
