x close

ดีเจหนุ่ม สายตรงถึง บิ๊กแป๊ะ ร้อง ตร. ตั้งด่านลอยยัดฉี่ม่วง ไถเงิน 15,000 แลกจบเรื่อง !

 
            ดีเจดัง แฉถูกตำรวจ สน.ท่าพระ ตั้งด่านยัดฉี่ม่วง แถมไถเงิน 15,000 แลกจบเรื่อง แต่เจ้าตัวไม่ยอมขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ต่อสายตรงร้องเรียน ผบ.ตร. ล่าสุดเข้ายื่นหนังสือที่ บช.น. ขอให้ลงโทษทางวินัยและอาญา 3 ข้อหา


ตำรวจตั้งด่าน
            จากกรณีนายกิตติศักดิ์ ชูเพียร อาชีพดีเจ โพสต์เฟซบุ๊กอ้างว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าพระ เรียกเงินจำนวน 15,000 บาท หลังตรวจปัสสาวะพบมีสารเมทแอมเฟตามีน แต่เมื่อถูกเรียกตรวจอีกด่านถัดไปในพื้นที่ตลิ่งชัน กลับไม่พบสารเสพติด จึงคาดว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าพระ กลั่นแกล้ง ทำให้ต้องดำเนินการเอาผิดให้ถึงที่สุด นั้น

            เกี่ยวกับเรื่องนี้ (29 มีนาคม 2563) อมรินทร์ ทีวี รายงานว่า จากการตรวจสอบจุดตั้งด่าน บริเวณหน้าปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 7 ถนนจรัญสนิทวงศ์ พบเป็นช่วงโค้งใกล้ทางกลับรถ ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งด่านเป็นประจำช่วง 22.00-02.00 น. เป็นด่านตรวจอาวุธและยาเสพติด โดยไม่ได้มีการตั้งกรวยยางหรือไฟส่องสว่าง เจ้าหน้าที่จะยืนข้างถนนและเรียกรถให้เข้าด่านก่อนตรวจ ส่วนประเด็นการเรียกรับเงิน เคยได้ยินมาบ้าง

ตำรวจตั้งด่าน
            ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่า วันเกิดเหตุตรวจปัสสาวะนายกิตติศักดิ์ พบฉี่ม่วงจึงต้องส่งตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลตามขั้นตอน ซึ่งผลออกมาว่าพบสารเมทแอมเฟตามีนจริง จึงนำตัวมาเจรจาที่ห้องสายตรวจ ซึ่งนายกิตติศักดิ์ ได้เสนอเงินจำนวน 15,000 บาท แลกการปล่อยตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจรับไว้จริงและได้ปล่อยตัวไป

            ต่อมานายกิตติศักดิ์ ได้โทรศัพท์กลับมาแจ้งตำรวจว่า ตรวจซ้ำอีกครั้งที่ด่านย่านตลิ่งชัน แต่ไม่พบสารเสพติด จึงตั้งประเด็นว่าถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง พร้อมให้ชายอีกรายอ้างเป็นทนายมาพูดคุยขู่เจ้าหน้าที่ ว่าจะดำเนินคดีรวมถึงร้องเรียนผู้บังคับบัญชา

            ด้าน พ.ต.อ. ปรีชา เพ็งเภา ผกก. สน.ท่าพระ กล่าวว่า ได้เรียกสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว ทราบว่าด่านดังกล่าวเป็นด่านของฝ่ายปราบปราบ ตั้งกันเองโดยไม่ได้แจ้งผู้บังคับบัญชา ซึ่งวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย อาสาสมัครตำรวจบ้านอีก 2 คน

            เบื้องต้นทางผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวย้ายไปปฏิบัติงานที่ สปก.กองบังคับการนครบาล 7 และตั้งคณะกรรมการสอบแล้ว โดยตำรวจ 4 นายที่ถูกสั่งย้าย ประกอบด้วย

            1. ร้อยตำรวจโท รอง สวป. สน.ท่าพระ
            2. ดาบตำรวจ ผบ.หมู่ ป. สน.ท่าพระ
            3. สิบตำรวจเอก ผบ.หมู่ ป. สน.ท่าพระ
            4. สิบตำรวจโท ผบ.หมู่ ป. สน.ท่าพระ

            ทั้งนี้ จากการสอบถามนายกิตติศักดิ์ เผยว่า เหตุเกิดช่วงตี 1 วันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนกำลังเดินทางไปทำธุระและระหว่างทางเจอด่าน สน.ท่าพระ จึงยินดีให้ตรวจปกติเพราะเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่เคยใช้สารเสพติดมาก่อน แต่จู่ ๆ เจ้าหน้าที่ก็ให้ตนตรวจซ้ำถึง 3 ครั้ง และบอกว่าผลตรวจไม่ชัดเจนจึงพาตนไปตรวจที่โรงพยาบาลย่านบางกอกน้อย หลังตรวจเสร็จเจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดผลให้ดูที่โรงพยาบาล แต่พาตนกลับมาที่ด่านเดิม และผลออกมาว่ามีสารเสพติด

            ขณะนั้นเจ้าหน้าที่เรียกค่าปรับ 30,000 บาท ต่อมาลดเหลือ 20,000 บาท ซึ่งตนไม่ยอมจ่าย และนั่งรอจนด่านเลิกตอนตี 3 เจ้าหน้าที่พาตนมาที่ สน.ท่าพระ พร้อมเรียกเงิน 15,000 บาท ตนยอมจ่าย เพราะไม่อยากมีปัญหา ซึ่งตลอดเวลาที่พูดคุยกัน ตำรวจไม่ได้ข่มขู่ แต่พูดในทำนองว่าจ่ายเงินเรื่องจบ

            หลังจากนั้นตนก็เดินทางกลับบ้านและบังเอิญมาเจอด่านตรวจความมั่นคงของตลิ่งชัน ตนได้ตรวจหาสารเสพติดอีกครั้ง แต่ผลออกมาไม่พบสารเสพติด จึงโทร. กลับหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกเก็บค่าปรับทันที เพื่อขอคำอธิบาย แต่เจ้าหน้าที่พยายามพูดบ่ายเบี่ยง ตนจึงให้ตำรวจรายดังกล่าวโอนเงินให้เพื่อเป็นหลักฐานว่า ตนถูกเรียกเงินจริง ๆ โดยตนเรียกเงินจำนวน 5 หมื่นถึง 1 แสนบาท อ้างว่าหากโอนให้เรื่องจะจบ สุดท้ายตำรวจรายดังกล่าวก็ยอมโอนเงินมากว่า 4 หมื่นบาท และบอกทำนองว่า โอนเงินให้แล้ว ขอให้ตนลบข้อมูลทิ้งเพื่อจบเรื่อง แต่ตนไม่ยอมลบทิ้ง เพราะตนตั้งใจจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และได้โทร. หา พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อร้องเรียนเรื่องดังกล่าว ซึ่ง พล.ต.อ. จักรทิพย์ บอกว่า ถ้าผิดจริง ไม่เอาไว้ และได้ให้ตนมาเข้าพบวันที่ 30 มีนาคม

ตำรวจตั้งด่าน
            ล่าสุดวันนี้ (30 มีนาคม 2563) เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานความคืบหน้าว่า ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายกิตติศักดิ์ พร้อมนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เรียกร้องให้ลงโทษทางวินัยและอาญา กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าพระ อาสาตำรวจบ้านดังกล่าว

            โดยขอเรียกร้องให้ดำเนินคดีในข้อหา 3 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว กรรโชกทรัพย์ และกลั่นแกล้งบุคคลหนึ่งคนใดให้ถูกดำเนินคดี พร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย เนื่องจากทำให้ผู้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ดีเจหนุ่ม สายตรงถึง บิ๊กแป๊ะ ร้อง ตร. ตั้งด่านลอยยัดฉี่ม่วง ไถเงิน 15,000 แลกจบเรื่อง ! อัปเดตล่าสุด 30 มีนาคม 2563 เวลา 17:08:33 27,691 อ่าน
TOP