โซเชียลมีเดียจีนถกเถียงสนั่น ประเด็นเด็กบ้านจน เรียนเก่งมาก คะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยสูงติดระดับท็อป แต่กลับเลือกเรียนโบราณคดี เลือกทำตามฝันแทนที่จะมองถึงอนาคต
วันที่ 4 สิงหาคม 2563 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยว่า เด็กนักเรียนหญิงชาวจีนรายหนึ่ง ตกเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตนำไปถกเถียงกันสนั่นโซเชียล เกี่ยวกับเรื่องชนชั้นทางสังคมจนเป็นกระแสไวรัล เธอเป็นเด็กนักเรียนที่มาจากครอบครัวฐานะค่อนข้างยากจน แต่เรียนเก่งมาก สามารถทำคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สูงติดระดับท็อป แต่กลับเลือกเรียนสาขาวิชาโบราณคดี ซึ่งไม่เป็นที่นิยม แทนการเลือกเรียนสาขาอื่น ๆ ที่จบไปมีเงินเดือนสูง ๆ และอนาคตก้าวไกล
จง ฟางหรง เป็นเด็กนักเรียนหญิง จากมณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของประเทศจีน เมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอเพิ่งทำคะแนนสอบเกาเข่า (Gaokao) หรือสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยของจีน ได้ไป 676 จากคะแนนเต็ม 750 คะแนน สูงเป็นอันดับ 4 ของมณฑล ฟางหรงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า เธอตั้งใจจะสมัครเข้าวิชาเอกโบราณคดี ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
หลายคนที่ได้เห็นเรื่องราวของเธอพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปในมุมมองที่แตกต่างกัน บางส่วนชื่นชมการตัดสินใจทำตามความฝันของเธอ ในการเลือกลงทะเบียนเรียนวิชาเอกที่ไม่เป็นที่นิยม แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่กล่าวว่า เธอคิดผิดแล้ว เธอจะต้องเสียใจในภายหลังที่เลือกเรียนวิชานี้ แทนการเลือกวิชาอื่นที่มีการแข่งขันสูง ปล่อยทิ้งโอกาสที่จะได้อาชีพการงานที่มั่นคงและไต่ขึ้นไปในระดับสังคมที่สูงขึ้น
ในประเทศจีนวิชาที่เกี่ยวข้องกับด้านศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์มักถูกมองข้ามในฐานะทางเลือกอาชีพ เนื่องจากในตลาดงานของจีนชื่นชอบผู้มีความสามารถด้านการเงิน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว หากแต่เป็นกลุ่มที่มีฐานะครอบครัวสูง ก็อาจจะเลือกเรียนวิชาในหมวดศิลปศาสตร์ได้โดยไม่เดือดร้อน
ถึงขนาดว่ามีบางรายตั้งข้อสงสัยว่า เธออาจจะได้รับความรู้หรือมีความเชื่อแบบผิด ๆ เห็นพวกโบราณคดีน่าสนใจจากที่อ่านในหนังสือ หรือเห็นตามโทรทัศน์ สายตาไม่ได้มองเห็นความจริงในโลกกว้างภายนอก
ความคิดเห็นต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันทางสังคมที่ครอบครัวที่มีรายได้น้อยในประเทศจีนต้องเผชิญ กับการต้องมุ่งมั่นแข่งขันกันปีนบันไดทางสังคมแทนที่จะทำตามความฝัน
อย่างไรก็ดี จง หยวนเว่ย พ่อของ จง ฟางหรง เผยว่า ลูกสาวได้ตัดสินใจแล้ว และครอบครัวก็เคารพในการตัดสินใจของเธอ เขาไม่คิดว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกสาวของเขา
"เราไม่เข้าใจมากนักเกี่ยวกับการเลือกสาขาวิชา แต่เนื่องจากเป็นมหาวิทยาลัยที่ดี เราจึงไม่คิดว่าเธอจะมีปัญหาในการจ้างงาน เราคิดว่าความสุขของลูกสำคัญที่สุด" หยวนเว่ย กล่าว
หลังจากเรื่องราวของฟางหรง
เป็นกระแสที่พูดถึงมาก เธอได้ออกมาอธิบายผ่านโซเชียล ระบุยืนยันว่า
เธอชื่นชอบวิชาประวัติศาสตร์และสิ่งประดิษฐ์มาตั้งแต่เด็ก
อีกทั้งเธอยังมีบุคคลต้นแบบคือ ฟ่าน จินฉือ นักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญชื่อดัง
ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยตุนหวง ตั้งแต่ปี 1998-2014
อุทิศเวลาร่วม 50 ปี ทำงานในถ้ำมั่วเกา
เพื่อศึกษาและอนุรักษ์งานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ในถ้ำ
ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่เธอสมัครเข้าเรียนสาขาวิชานี้
หลังจากนั้น ฟ่าน จินฉือ ได้เขียนจดหมายส่งตรงถึงฟางหรง ระบุว่า "อย่าลืมความฝัน อดทนพากเพียร และตั้งใจเรียน"
รวมไปถึงนักโบราณคดีที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน และพิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ต่างพากันชื่นชมสนับสนุน ส่งหนังสือพจนานุกรม และอุปกรณ์การศึกษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาโบราณคดีไปให้เธอเป็นขวัญกำลังใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก scmp
จง ฟางหรง เป็นเด็กนักเรียนหญิง จากมณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของประเทศจีน เมื่อเร็ว ๆ นี้ เธอเพิ่งทำคะแนนสอบเกาเข่า (Gaokao) หรือสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยของจีน ได้ไป 676 จากคะแนนเต็ม 750 คะแนน สูงเป็นอันดับ 4 ของมณฑล ฟางหรงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า เธอตั้งใจจะสมัครเข้าวิชาเอกโบราณคดี ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
หลายคนที่ได้เห็นเรื่องราวของเธอพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปในมุมมองที่แตกต่างกัน บางส่วนชื่นชมการตัดสินใจทำตามความฝันของเธอ ในการเลือกลงทะเบียนเรียนวิชาเอกที่ไม่เป็นที่นิยม แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อย ที่กล่าวว่า เธอคิดผิดแล้ว เธอจะต้องเสียใจในภายหลังที่เลือกเรียนวิชานี้ แทนการเลือกวิชาอื่นที่มีการแข่งขันสูง ปล่อยทิ้งโอกาสที่จะได้อาชีพการงานที่มั่นคงและไต่ขึ้นไปในระดับสังคมที่สูงขึ้น
ในประเทศจีนวิชาที่เกี่ยวข้องกับด้านศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์มักถูกมองข้ามในฐานะทางเลือกอาชีพ เนื่องจากในตลาดงานของจีนชื่นชอบผู้มีความสามารถด้านการเงิน วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อตอบสนองต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว หากแต่เป็นกลุ่มที่มีฐานะครอบครัวสูง ก็อาจจะเลือกเรียนวิชาในหมวดศิลปศาสตร์ได้โดยไม่เดือดร้อน
ภาพจาก Weibo
ตัวอย่างท็อปคอมเมนต์ในเว่ยป๋อ โซเชียลมีเดียที่นิยมของจีน กล่าวว่า "วิชาศิลปศาสตร์และมนุษยศาสตร์หรูหราเกินไปสำหรับคนที่มาจากครอบครัวรายได้น้อย" และ "สำหรับคนยากจนพวกเขาควรคำนึงถึงรายได้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้มากขึ้น
ในสาขาวิชาเอกมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์นี้จะเสียเปรียบมาก
โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ปรัชญาและวรรณคดี"
ถึงขนาดว่ามีบางรายตั้งข้อสงสัยว่า เธออาจจะได้รับความรู้หรือมีความเชื่อแบบผิด ๆ เห็นพวกโบราณคดีน่าสนใจจากที่อ่านในหนังสือ หรือเห็นตามโทรทัศน์ สายตาไม่ได้มองเห็นความจริงในโลกกว้างภายนอก
ความคิดเห็นต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันทางสังคมที่ครอบครัวที่มีรายได้น้อยในประเทศจีนต้องเผชิญ กับการต้องมุ่งมั่นแข่งขันกันปีนบันไดทางสังคมแทนที่จะทำตามความฝัน
อย่างไรก็ดี จง หยวนเว่ย พ่อของ จง ฟางหรง เผยว่า ลูกสาวได้ตัดสินใจแล้ว และครอบครัวก็เคารพในการตัดสินใจของเธอ เขาไม่คิดว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกสาวของเขา
"เราไม่เข้าใจมากนักเกี่ยวกับการเลือกสาขาวิชา แต่เนื่องจากเป็นมหาวิทยาลัยที่ดี เราจึงไม่คิดว่าเธอจะมีปัญหาในการจ้างงาน เราคิดว่าความสุขของลูกสำคัญที่สุด" หยวนเว่ย กล่าว
หลังจากนั้น ฟ่าน จินฉือ ได้เขียนจดหมายส่งตรงถึงฟางหรง ระบุว่า "อย่าลืมความฝัน อดทนพากเพียร และตั้งใจเรียน"
รวมไปถึงนักโบราณคดีที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน และพิพิธภัณฑ์ มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ต่างพากันชื่นชมสนับสนุน ส่งหนังสือพจนานุกรม และอุปกรณ์การศึกษาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาโบราณคดีไปให้เธอเป็นขวัญกำลังใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก scmp