เจ้าหน้าที่รุดช่วย ยายวัย 79 ปี ถูกลูกสาวแท้ ๆ จับขังในคอนโด ดุด่าหยาบคาย แถมทำร้ายร่างกาย ลูกอ้างต้องขัง เพราะแม่เลอะเลือน ด้านแม่เผยถูกเท้าถีบ แต่ไม่แจ้งความลูก เพราะแม่อภัยได้
วันที่ 20 ตุลาคม 2563 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสาน พ.ต.อ. รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว และนายสนองวิชญ์ ภูวันทมาตย์ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ในการช่วยเหลือคุณยายวัย 79 ปี ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ หลังพลเมืองดีแจ้งว่าคุณยายถูกลูกสาวกักขังทุบตีทำร้ายร่างกาย ด่าหยาบคาย ขู่จะฆ่าให้ตาย เพื่อให้การช่วยเหลือเร่งด่วน
โดยทีมงานทั้งหมดได้ร่วมกันลงพื้นที่คอนโดดังกล่าว พบคุณยายถูกขังอยู่ในห้องพักที่ถูกล็อกกุญแจจากด้านนอก กำลังร้องขอความช่วยเหลือให้พาออกไป โดยลูกสาวพักอาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ อ้างว่าจำเป็นที่ต้องขังแม่ไว้ เนื่องจากแม่มีอาการหลงลืม เกรงว่าปล่อยออกไปข้างนอกจะหลงหายไป เนื่องจากที่ผ่านมามีความเครียดหลายอย่างเพราะได้รับผลกระทบจากโควิด เมื่อไม่นานมานี้ก็ถูกยึดบ้าน และต้องดิ้นรนทำงานหาเงิน จึงทำให้มีอารมณ์โมโหเวลาที่แม่ดื้อและทำข้าวของเสียหาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้พาคุณยายเดินทางมาที่ สน.ลาดพร้าว
เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง และแจ้งให้ลูกสาวคุณยายติดตามไปพบเจ้าหน้าที่
โดยคุณยายวัย 79 ปี เล่าว่า ตนมักถูกลูกสาวดุด่า ทำร้าย ทั้งเอามือเขกหัว และใช้เท้าถีบ แต่ถึงอย่างไรตนก็ไม่อยากดำเนินคดีเพราะลูกก็คือลูก โดยนางปวีณาได้ถามคุณยายว่า อยากกลับไปอยู่กับลูกหรืออยู่กับใคร ซึ่งคุณยายตอบว่าไม่อยากไปอยู่กับลูกแล้ว นางปวีณาจึงได้บอกว่า ทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมที่จะพาไปอยู่บ้านบางแค ซึ่งคุณยายก็ดีใจและสมัครใจอยากไปอยู่
โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ พม. จะรับตัวเข้าไปดูแล โดยจะต้องไปกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิด ที่บ้านมิตรไมตรี เป็นเวลา 14 วัน จากนั้นจะรับไปพักที่บ้านบางแค ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก INN
โดยทีมงานทั้งหมดได้ร่วมกันลงพื้นที่คอนโดดังกล่าว พบคุณยายถูกขังอยู่ในห้องพักที่ถูกล็อกกุญแจจากด้านนอก กำลังร้องขอความช่วยเหลือให้พาออกไป โดยลูกสาวพักอาศัยอยู่ห้องข้าง ๆ อ้างว่าจำเป็นที่ต้องขังแม่ไว้ เนื่องจากแม่มีอาการหลงลืม เกรงว่าปล่อยออกไปข้างนอกจะหลงหายไป เนื่องจากที่ผ่านมามีความเครียดหลายอย่างเพราะได้รับผลกระทบจากโควิด เมื่อไม่นานมานี้ก็ถูกยึดบ้าน และต้องดิ้นรนทำงานหาเงิน จึงทำให้มีอารมณ์โมโหเวลาที่แม่ดื้อและทำข้าวของเสียหาย
โดยคุณยายวัย 79 ปี เล่าว่า ตนมักถูกลูกสาวดุด่า ทำร้าย ทั้งเอามือเขกหัว และใช้เท้าถีบ แต่ถึงอย่างไรตนก็ไม่อยากดำเนินคดีเพราะลูกก็คือลูก โดยนางปวีณาได้ถามคุณยายว่า อยากกลับไปอยู่กับลูกหรืออยู่กับใคร ซึ่งคุณยายตอบว่าไม่อยากไปอยู่กับลูกแล้ว นางปวีณาจึงได้บอกว่า ทางเจ้าหน้าที่มีความพร้อมที่จะพาไปอยู่บ้านบางแค ซึ่งคุณยายก็ดีใจและสมัครใจอยากไปอยู่
โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ พม. จะรับตัวเข้าไปดูแล โดยจะต้องไปกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิด ที่บ้านมิตรไมตรี เป็นเวลา 14 วัน จากนั้นจะรับไปพักที่บ้านบางแค ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานไว้ก่อน
ขอบคุณข้อมูลจาก INN