ลูกสาวปล่อยโฮ สารภาพ เอาเงินที่แม่ได้รับบริจาค 6 แสนไปทำอะไร หลังเงินหมดใน 3 เดือน ยืนยันไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัวจนหมด ด้านแม่ลั่น จากนี้ขอกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในห้องเช่าเหมือนเดิม
![คุณยายตกปลา]( "คุณยายตกปลา")
ทั้งนี้ น.ส.บุญยิ่ง ยืนยันว่า เงินที่ได้มานั้น ตนเอาไปต่อเติมบ้านและใช้จ่ายในครอบครัว ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว อีกทั้งแม่ขอเงินใช้อาทิตย์ละ 4,000-5,000 บาท และจากการไกล่เกลี่ย น.ส.บุญยิ่ง ต้องคืนเงินแม่ทั้งหมด 672,700 บาท และทำสัญญาชดใช้ใหม่แม่เดือนละ 3,000 บาท จ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือนจนกว่าแม่จะเสียชีวิต ซึ่งเท่ากับว่าต้องจ่ายคืน 18 ปี
"มันไม่ใช่เดือนละแสนสองแสน คือใช้ไปเรื่อย ๆ แต่พอมามีปัญหาตรงนี้ ก็มาว่าเราเอาไปทำนู่นทำนี่ จริง ๆ เราไม่ได้เอาไปไหนเลย ตอนเขาป่วยไข้เราก็ไปซื้อยาให้เขากิน" น.ส.บุญยิ่ง กล่าว
จากกรณีที่ สาลี่ นวลจันทร์ ตระเวนไปตกปลาตามที่ต่าง ๆ เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเช่าห้อง จนกลายเป็นเรื่องราวที่มีคนสงสารอย่างมาก และมีคนบริจาคเงินช่วยคุณยายจนได้เงินกว่า 600,0000 บาท ทว่าต่อมา เมื่อลูกสาวรู้ว่าคุณยายมีเงินบริจาค จึงรับคุณยายไปอยู่ด้วย แต่แล้วเงินบริจาคก็หมดลงภายใน 3 เดือน
อ่านเพิ่มเติม : คนเห็นใจคุณยายตกปลา แห่บริจาคมา 6 แสน ผ่านไป 3 เดือนเงินหมดเกลี้ยง เพราะ...
อ่านเพิ่มเติม : คนเห็นใจคุณยายตกปลา แห่บริจาคมา 6 แสน ผ่านไป 3 เดือนเงินหมดเกลี้ยง เพราะ...
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองตราด และนายอำเภอตราด พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้นัดไกล่เกลี่ยกันระหว่าง คุณยายสาลี่ นวลจันทร์ ปี และ นางสาวบุญยิ่ง งามขำ จากกรณีที่คุณยายได้เงินบริจาคมา 600,000 บาท แต่ลูกสาวมาช่วยจัดการและพาไปทำบัตรเอทีเอ็ม จนเงิน 600,000 หมดภายใน 3 เดือน ซึ่งระหว่างการเจรจานั้น น.ส.บุญยิ่ง ก็ร้องไห้ออกมา
ทั้งนี้ น.ส.บุญยิ่ง ยืนยันว่า เงินที่ได้มานั้น ตนเอาไปต่อเติมบ้านและใช้จ่ายในครอบครัว ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว อีกทั้งแม่ขอเงินใช้อาทิตย์ละ 4,000-5,000 บาท และจากการไกล่เกลี่ย น.ส.บุญยิ่ง ต้องคืนเงินแม่ทั้งหมด 672,700 บาท และทำสัญญาชดใช้ใหม่แม่เดือนละ 3,000 บาท จ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือนจนกว่าแม่จะเสียชีวิต ซึ่งเท่ากับว่าต้องจ่ายคืน 18 ปี
"มันไม่ใช่เดือนละแสนสองแสน คือใช้ไปเรื่อย ๆ แต่พอมามีปัญหาตรงนี้ ก็มาว่าเราเอาไปทำนู่นทำนี่ จริง ๆ เราไม่ได้เอาไปไหนเลย ตอนเขาป่วยไข้เราก็ไปซื้อยาให้เขากิน" น.ส.บุญยิ่ง กล่าว
ด้านผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.บุญยิ่ง ซึ่งเธอยืนยันว่า เธอไม่มีเจตนาไล่แม่ออกจากบ้าน แค่บอกว่า หากไปอยู่ห้องเช่าน่าจะดีกว่านี้
ด้านเจ้าหน้าที่ได้พาคุณยายสาลี่ไปธนาคาร หลังจากที่เจรจาเสร็จ เพื่อปิดรับบริจาคและปิดบัญชีทั้งหมด และถอนเงินออกมาไว้ใช้จ่าย โดยที่คุณยายสาลี่ยืนยันว่า จะไม่กลับไปอยู่กับลูกอีกแล้ว แต่จะขอกลับไปอยู่ห้องเช่าแทน ส่วนในอนาคตอาจจะไปนั่งตกปลา เพราะแก่แล้ว
ด้าน พม. จังหวัดตราด เผยว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 เมื่อทาง พม. ทราบเรื่องคุณยายสาลี่ ทาง พม. ก็ยื่นมือเข้ามาเพื่อขอช่วยเหลือในเรื่องการจัดการเงิน แต่คุณยายสาลี่ต้องการให้ลูกหลานดูแลเอง แต่หลังจากนี้จะเข้าไปช่วยเหลือจัดการเรื่องเงินแทน
ด้าน พม. จังหวัดตราด เผยว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 เมื่อทาง พม. ทราบเรื่องคุณยายสาลี่ ทาง พม. ก็ยื่นมือเข้ามาเพื่อขอช่วยเหลือในเรื่องการจัดการเงิน แต่คุณยายสาลี่ต้องการให้ลูกหลานดูแลเอง แต่หลังจากนี้จะเข้าไปช่วยเหลือจัดการเรื่องเงินแทน
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่องวัน
