แฉตำรวจชลบุรี เมากร่าง ถือขวดเมาลากเด็ก 17 นั่งพื้นเตะเสยหน้าไป 1 ป๊าบ ก่อนลั่น "กูไม่ชอบกะเทย" โวทำร้ายใครก็ได้ ไม่กลัวใคร
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ช่อง 3 รายงานว่า นายพายุวัฒน์ ดีหอมศิล หรือน้องมอส อายุ 17 ปี พร้อมแม่ ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี หลังถูกชายที่ระบุว่าเป็นตำรวจเตะเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดตำรวจครึ่งท่อน พร้อมถือขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนจะกระชากแขนน้องมอสให้ลงมานั่งคุกเข่าที่พื้นก่อนจะเตะเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งเดินมาห้ามปราม และมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งตะโกนว่า "ขอโทษน้องกู" และปาแก้วใส่ตำรวจคนดังกล่าว
น้องมอส เล่าว่า ตนและเจ๊จ๋า เจ้าของร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นคนที่ปาแก้วนั้นได้นัดเจอกันที่ชายหาดบางแสน ก่อนจะชวนตนมานั่งที่หน้าร้าน ซึ่งตนมาร้านของเจ๊จ๋าเป็นครั้งแรก เมื่อมาถึงร้านก็เห็นกลุ่มของตำรวจที่ก่อเหตุนั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าร้าน เจ๊จ๋าจึงเดินลงไปจากรถ ส่วนตนนั่งรอในรถ แต่ผ่านไปไม่นานตำรวจคนนี้ก็มาเคาะกระจกเรียกให้ตนลงจากรถ ตนจึงลงไปนั่งบนเก้าอี้แต่ถูกบังคับให้นั่งที่พื้นก่อนจะถูกเตะตามคลิป จากนั้นตำรวจคนนี้ก็ด่าตนว่า "กูไม่ชอบกระเทย"
น้องมอส บอกว่า ด้วยความกลัวตนจึงไม่กล้าสู้ และรีบออกจากที่เกิดเหตุแล้วไปโรงพยาบาลทันที โดยได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าขวาปูดบวม ปากแตก หวาดกลัวอย่างหนัก ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่คิดว่าตำรวจจะมาก่อเหตุเสียเองทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและยังเหยียดเพศอีกด้วย ช่วงเกิดเหตุยังพูดข่มขู่ว่าใหญ่โตสามารถทำร้ายใครก็ได้ ไม่กลัวใคร และทราบข่าวว่าได้ทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
ด้าน น.ส.ยุวรัตน์ สียา อายุ 30 ปี หรือเจ๊จ๋า กล่าวว่า ตนเจอกับน้องมอสที่เดินทางมาเที่ยวชายหาดบางแสนกับเพื่อน เจอกันประมาณ 3-4 วัน เกิดถูกชะตา จึงเที่ยวเล่นด้วยกัน และชักชวนให้มาทำงานที่ร้าน วันเกิดเหตุตั้งใจพาน้องมอสมาดูร้าน แต่จู่ ๆ นายตำรวจคนดังกล่าวก็มาทำร้ายร่างกายน้องโดยที่ไม่มีเหตุผล เป็นเรื่องที่ตนรับไม่ได้ ต่อให้เป็นตำรวจผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ส่วนสาเหตุจะมาจากการที่นายตำรวจชอบพอตนแล้วเกิดความหึงหวง หรือไม่พอใจที่เห็นตนไปเที่ยวกับน้องมอสหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบให้ไปถามตำรวจคนดังกล่าวเอาเอง แต่ตนยืนยันว่าไม่ชอบนายตำรวจคนดังกล่าวเชิงชู้สาวแน่นอน
ด้านแม่ของเจ๊จ๋า เผยว่า ปกติตำรวจคนนี้นิสัยดี คอยดูแลตนและดูแลร้าน วันนั้นคงมีเหตุอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจจึงก่อเหตุไปแบบนั้น
ขณะที่แม่ของน้องมอส กล่าวทั้งน้ำตาว่าเห็นคลิเปแล้วสงสารลูกที่โดนทำร้ายแบบไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ตนเลี้ยงลูกมาไม่เคยทำรุนแรงกับลูกแม้แต่ครั้งเดียว และยังมีความกังวลว่าลูกจะไม่ปลอดภัยเพราะคนก่อเหตุเป็นตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ. สุรสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ผกก.สภแสนสุข เผยว่า ชายในคลิปคือ ด.ต. ศศิพงษ์ เดชนุวัฒนชัย เป็นตำรวจของ สภ.แสนสุข จริง เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำห้องวิทยุสื่อสาร ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดชลบุรี แต่ถูกส่งตัวกลับมา โดยในวันเกิดเหตุดาบตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้อยู่รัหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นวันเวรพัก
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นที่ทราบเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว หึงหวง ซึ่งจากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย โดยให้ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ตรวจร่างกาย ดำเนินการทางวินัย และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผิดว่าไปตามผิด ไม่ปกป้องอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ช่อง 3 รายงานว่า นายพายุวัฒน์ ดีหอมศิล หรือน้องมอส อายุ 17 ปี พร้อมแม่ ได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี หลังถูกชายที่ระบุว่าเป็นตำรวจเตะเข้าที่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564
โดยภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นภาพชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดตำรวจครึ่งท่อน พร้อมถือขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนจะกระชากแขนน้องมอสให้ลงมานั่งคุกเข่าที่พื้นก่อนจะเตะเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งเดินมาห้ามปราม และมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งตะโกนว่า "ขอโทษน้องกู" และปาแก้วใส่ตำรวจคนดังกล่าว
น้องมอส เล่าว่า ตนและเจ๊จ๋า เจ้าของร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นคนที่ปาแก้วนั้นได้นัดเจอกันที่ชายหาดบางแสน ก่อนจะชวนตนมานั่งที่หน้าร้าน ซึ่งตนมาร้านของเจ๊จ๋าเป็นครั้งแรก เมื่อมาถึงร้านก็เห็นกลุ่มของตำรวจที่ก่อเหตุนั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าร้าน เจ๊จ๋าจึงเดินลงไปจากรถ ส่วนตนนั่งรอในรถ แต่ผ่านไปไม่นานตำรวจคนนี้ก็มาเคาะกระจกเรียกให้ตนลงจากรถ ตนจึงลงไปนั่งบนเก้าอี้แต่ถูกบังคับให้นั่งที่พื้นก่อนจะถูกเตะตามคลิป จากนั้นตำรวจคนนี้ก็ด่าตนว่า "กูไม่ชอบกระเทย"
น้องมอส บอกว่า ด้วยความกลัวตนจึงไม่กล้าสู้ และรีบออกจากที่เกิดเหตุแล้วไปโรงพยาบาลทันที โดยได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าขวาปูดบวม ปากแตก หวาดกลัวอย่างหนัก ต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่คิดว่าตำรวจจะมาก่อเหตุเสียเองทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนและยังเหยียดเพศอีกด้วย ช่วงเกิดเหตุยังพูดข่มขู่ว่าใหญ่โตสามารถทำร้ายใครก็ได้ ไม่กลัวใคร และทราบข่าวว่าได้ทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง
ด้าน น.ส.ยุวรัตน์ สียา อายุ 30 ปี หรือเจ๊จ๋า กล่าวว่า ตนเจอกับน้องมอสที่เดินทางมาเที่ยวชายหาดบางแสนกับเพื่อน เจอกันประมาณ 3-4 วัน เกิดถูกชะตา จึงเที่ยวเล่นด้วยกัน และชักชวนให้มาทำงานที่ร้าน วันเกิดเหตุตั้งใจพาน้องมอสมาดูร้าน แต่จู่ ๆ นายตำรวจคนดังกล่าวก็มาทำร้ายร่างกายน้องโดยที่ไม่มีเหตุผล เป็นเรื่องที่ตนรับไม่ได้ ต่อให้เป็นตำรวจผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ส่วนสาเหตุจะมาจากการที่นายตำรวจชอบพอตนแล้วเกิดความหึงหวง หรือไม่พอใจที่เห็นตนไปเที่ยวกับน้องมอสหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบให้ไปถามตำรวจคนดังกล่าวเอาเอง แต่ตนยืนยันว่าไม่ชอบนายตำรวจคนดังกล่าวเชิงชู้สาวแน่นอน
ด้านแม่ของเจ๊จ๋า เผยว่า ปกติตำรวจคนนี้นิสัยดี คอยดูแลตนและดูแลร้าน วันนั้นคงมีเหตุอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจจึงก่อเหตุไปแบบนั้น
ขณะที่แม่ของน้องมอส กล่าวทั้งน้ำตาว่าเห็นคลิเปแล้วสงสารลูกที่โดนทำร้ายแบบไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ตนเลี้ยงลูกมาไม่เคยทำรุนแรงกับลูกแม้แต่ครั้งเดียว และยังมีความกังวลว่าลูกจะไม่ปลอดภัยเพราะคนก่อเหตุเป็นตำรวจ
ด้าน พ.ต.อ. สุรสิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ผกก.สภแสนสุข เผยว่า ชายในคลิปคือ ด.ต. ศศิพงษ์ เดชนุวัฒนชัย เป็นตำรวจของ สภ.แสนสุข จริง เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำห้องวิทยุสื่อสาร ก่อนหน้านี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลจังหวัดชลบุรี แต่ถูกส่งตัวกลับมา โดยในวันเกิดเหตุดาบตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้อยู่รัหว่างการปฏิบัติหน้าที่ เป็นวันเวรพัก
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นที่ทราบเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว หึงหวง ซึ่งจากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย โดยให้ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ตรวจร่างกาย ดำเนินการทางวินัย และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ผิดว่าไปตามผิด ไม่ปกป้องอย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก ช่อง 3
