x close

ญี่ปุ่นดราม่า คนไทยขับรถชนแล้วหนี ทิ้งเหยื่อตาย อึ้งเล่นมือถือ ไม่มีใบขับขี่ รถยืมมา

            ญี่ปุ่นดราม่า หนุ่มไทยขับรถชนคนตาย พบเล่นมือถือ ไม่มองทาง ใบขับขี่ไม่มี แถมทิ้งรถหนี ละเมิดกฎหมายไม่กลัวเกรง สุดท้ายแค่ คุก 5 ปีครึ่ง

ขับรถชนคนตาย

            วันที่ 27 มิถุนายน 2565 เว็บไซต์ยาฮู เจแปน มีรายงานคดีซึ่งกำลังตกเป็นประเด็นดราม่าในประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ ชายไทย วัย 29 ปี ก่อเหตุขับรถชนแล้วหนี ทิ้งให้คู่กรณีซึ่งเป็นเด็กหนุ่มอายุ 19 ปี เสียชีวิต ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตขับรถ รถไม่มีประกัน แถมยังใช้โทรศัพท์มือถือขณะเกิดเหตุ แต่สุดท้ายกลับได้รับโทษเพียงจำคุก 5 ปี 6 เดือน

ขับรถไม่มองทาง ทิ้งรถหนีหลังชนคนตาย


            สำหรับอุบัติเหตุร้ายแรงดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2563 บนถนนสายหนึ่งในจังหวัดชิบะ ช่วงค่ำวันดังกล่าว นายโยสึเกะ อายุ 19 ปี กำลังขี่รถจักรยานยนต์โดยให้เพื่อนซ้อนท้าย มาถึงสี่แยกไฟแดงซึ่งสัญญาณไฟเป็นสีเขียว นายโยสึเกะจึงขับรถตรงไป แต่ทันใดนั้นรถยนต์ที่ขับมาจากทิศทางตรงข้าม เกิดเลี้ยวขวากะทันหัน ทำให้ชนกับรถของนายโยสึเกะอย่างรุนแรง

            ในตอนนั้นกระจกรถยนต์ที่แตก ได้เสียบเข้าบริเวณลำคอของนายโยสึเกะจนเลือดไหลนอง ส่วนเพื่อนที่ซ้อนท้ายมาด้วยกันก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่แทนที่ชายไทยซึ่งเป็นคู่กรณีจะทำการช่วยเหลือ เขากลับรีบลงจากรถมา พูดว่า "ผมขอโทษ ผมขอโทษ" เป็นภาษาญี่ปุ่น ก่อนจะรีบหนีไปจากที่เกิดเหตุ ทิ้งรถยนต์ที่ยังติดเครื่องไว้เบื้องหลัง


            รายงานเผยว่า นายโยสึเกะ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่เพื่อนของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

วางแผนหนีข้ามเมือง แต่ไปไม่รอด   


            เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในอีก 3 วันต่อมา โดยสืบสวนพบว่า หลังก่อเหตุแล้วเขาได้ถอดเสื้อแจ็คเก็ตทิ้งไว้ เพื่อจะหนีการติดตามตัวของตำรวจ ระหว่างนั้นยังส่งไลน์ไปปรึกษาคนรู้จัก ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อจะหลบหนีไปยังจังหวัดโอซาก้าด้วย

ทำผิดกฎหมายในทุกมิติ เพื่อนให้ยืมรถทั้งรู้ ไร้ใบขับขี่


ขับรถชนคนตาย

            ที่เลวร้ายไปยิ่งกว่านั้นคือ ปรากฏว่า นายเอ (นามสมมติ) ผู้ก่อเหตุ เป็นคนไทยซึ่งไม่มีวีซ่าพำนักในญี่ปุ่น ไม่มีใบขับขี่ และอ้างว่ากำลังก้มลงดูระบบนำทางในโทรศัพท์มือถือขณะเกิดเหตุ ทำให้ไม่ทันสังเกตเห็นรถจักยานยนต์ที่ขับสวนมา กว่าจะรู้ก็ชนเข้าไปแล้ว

            ทั้งนี้ จากการสืบสวนของตำรวจ พบว่า นายเอเข้ามาอยู่ที่ญี่ปุ่นประมาณ 5 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ในจังหวัดโอซาก้า แต่เพิ่งลาออกและย้ายมาอยู่ที่จังหวัดชิบะ เพียง 11 วันก่อนเกิดเหตุ โดยทำงานรับจ้างในไร่เกษตร รับค่าแรงรายวัน


            ส่วนเจ้าของรถยนต์ คือชายไทยชื่อ นายบี (นามสมมติ) เป็นคนรู้จักของนายเอ ที่ยอมให้นายเอยืมรถทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาไม่มีใบขับขี่ ขณะที่ตัวนายบีเองก็ไม่มีใบขับขี่ และไม่ได้ทำประกันรถยนต์ไว้ด้วย

พ่อเหยื่อเดือด ยิ่งรู้ความจริง ยิ่งจนคำพูด


            สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ นายคิยูกิ ทานิดะ อายุ 52 ปี พ่อของนายโยสึเกะ ถึงกับใจสลาย ลูกชายของเขาเป็นเหมือนดวงใจของพ่อแม่ ที่มีอนาคตไกลและกำลังจะอายุครบ 20 ปี เพียงไม่กี่วันก่อนเสียชีวิต การกระทำอันไร้ความรับผิดชอบของนายเอทำให้พ่อที่เสียลูกชายไปอย่างเขารับไม่ได้ เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกตอนได้ยินจำเลยเล่าว่ากำลังใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และหักเลี้ยวรถทันทีโดยไม่มองรถคันอื่น

            ในขณะที่พ่ออย่างเขาทั้งผิดหวัง และไม่รู้จะนำความโกรธแค้นไประบายที่ไหน ทำไมผู้ก่อเหตุจึงเพิกเฉยต่อกฎหมายได้ถึงเพียงนี้

            เมื่อเดือนเมษายน 2565 ระหว่างอยู่ในศาลอาญา นายคิยูกิยังเผยถึงความรู้สึกของครอบครัวผู้สูญเสีย ชี้ว่าครอบครัวของเขาไม่อาจกลับไปใช้ชีวิตที่สดใสและยิ้มแย้มเช่นเดิมได้อีกต่อไป พฤติกรรมอันเห็นแก่ตัวของจำเลยสังหารลูกชายที่แสนมีค่าของเขา

ลงโทษแค่นี้ในคดีอุบัติเหตุร้ายแรง เบาไปไหม ?


            ล่าสุดในเดือนมิถุนายน ศาลก็เพิ่งมีคำตัดสินจำคุกนายเอ เป็นเวลา 5 ปี 6 เดือน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้นายคิยูกิอดรู้สึกไม่ได้ว่า บทลงโทษดังกล่าวดูจะเบาเกินไปหรือไม่ สำหรับชาวต่างชาติที่กระทำผิดร้ายแรง และไม่เคารพกฎหมายเช่นนี้ และนำมาสู่การวิพากษ์วิจารณ์กรณีดังกล่าวในสังคมญี่ปุ่น
 
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก news.yahoo.co.jp


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ญี่ปุ่นดราม่า คนไทยขับรถชนแล้วหนี ทิ้งเหยื่อตาย อึ้งเล่นมือถือ ไม่มีใบขับขี่ รถยืมมา โพสต์เมื่อ 29 มิถุนายน 2565 เวลา 16:51:32 9,764 อ่าน
TOP