ลูกชายติดเกมหนัก แม่งัดวิธีแก้เผ็ด ให้ลูกหยุดเรียนมาเล่นเกมให้สมใจ แต่ต้องเล่นเกม 16 ชั่วโมงต่อวัน พร้อมทำรายงานและ KPI ผ่านไป 3 วัน รู้เรื่อง
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 เว็บไซต์ ETtoday รายงานว่า เด็กชายชั้น ป.3 จากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ติดเกมหนักมากจนไม่ใส่ใจเรื่องการเรียน ไม่ตั้งใจทำการบ้าน แม้กระทั่งครูเข้ามาพูดคุยด้วยก็ยังไม่สนใจ กำลังจะได้รับบทเรียนครั้งสำคัญจากผู้เป็นแม่ ที่ตัดสินใจแล้วว่าในเมื่อลูกอยากเล่นเกม ไม่อยากเรียน ก็ให้ลูกได้เล่นเกมแบบเน้น ๆ เต็มคาราเบลกันไปเลย
โดยพบว่าลูกชายวัย 8 ขวบ กำลังติดเกมในโทรศัพท์มือถือแบบหนักมาก ขนาดครูเข้ามาเกลี้ยกล่อมให้เขาตั้งใจเรียนหนังสือ เขากลับตอบไปว่า "ผมไม่อยากเรียนอีกแล้ว ผมอยากเล่นเกม" และยังอยากจะหยุดเรียนมาเล่นเกมเฉย ๆ ด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นดังนั้น แม่จึงงัดวิธีใหม่มาใช้ในการจัดการลูกชาย
ในเมื่อเขาอยากเล่นเกมนักก็จะให้ได้เล่นสมใจ ด้วยเหตุนี้ นางหยาง
คุณแม่ของเด็กชายจึงให้ลูกชายลาหยุด
เพื่อให้เขาได้จดจ่อกับการเล่นเกมอยู่ที่บ้านให้เต็มที่
พร้อมกำหนดตารางการเล่นเกมให้ลูกชายแบบจริงจัง
โดยเด็กชายจะต้องเล่นเกม 16 ชั่วโมงต่อวัน มีช่วงพักกินอาหาร 3 มื้อ นอกจากนี้ลูกชายยังต้องทำการบันทึก KPI หรือดัชนีชี้วัดความสำเร็จ ซึ่งเขาจะต้องเขียนสรุปและรายงานผลการเล่นเกมให้แม่ทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็น
คุณแม่เผยว่า ในวันแรกเจ้าลูกชายตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้เล่นเกมให้เต็มที่ ในวันที่ 2 ก็ยังดูดี สามารถลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้าได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ทั้งที่ปกติจะต้องงัวเงียอยู่เช่นนั้นเป็นครึ่งชั่วโมง กว่าจะพร้อมทำอย่างอื่น
ในวันนั้นลูกชายก็เขียนรายงานการเล่นเกมตามปกติ โดยพบว่าช่วงเช้าเขาเล่นไป 18 รอบ และสามารถเข้าถึงอันดับที่น่าพอใจเพียง 5 รอบเท่านั้น แม่จึงให้คำชี้แนะต่าง ๆ รวมถึงตรวจทานรายงานของลูกชาย พร้อมชี้จุดข้อผิดพลาดในการเขียนรายงานของเขา ทั้งเรื่องการใช้เครื่องหมายต่าง ๆ การเขียนที่ไม่ไหลลื่น และย้ำว่าหากเขายังเขียนได้ไม่ดี ก็ต้องนั่งเขียนรายงานใหม่
ทั้งนี้ พบว่าเมื่อเข้าสู่วันที่ 3 ลูกชายที่ยังดูกระตือรือร้นสุด ๆ ในตอนแรก ก็เริ่มแสดงท่าทีเบื่อหน่ายซะแล้ว ต่างจากวันแรกที่รู้ว่าจะได้เล่นเกมทั้งวัน ดูเหมือนว่าภายใต้ความกดดันของการทำ KPI และการทำรายงานสรุปการเล่น จะทำให้ความสนุกในการเล่นเกมค่อย ๆ หายไป
ลูกชายเดิมที่มีความกระตือรือร้นในการเล่นเกม ภายใต้ความกดดันของ KPI และการต้องทำรายงานทบทวนการเล่น ดูเหมือนว่าความสนุกในการเล่นเกมจะค่อย ๆ หายไป แม่บอกว่า ปัจจุบันเพิ่งถึงวันที่ 3 ลูกก็เริ่มออกอาการเบื่อซะแล้ว
ทั้งนี้ แม่เผยว่า เธออยากให้ลูกชายได้ตระหนักว่า แม้จะเป็นการเล่นเกมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
ขณะที่ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาชื่นชมแม่รายนี้ กับวิธีรับมือลูกชายติดเกม บอกว่าเป็นวิธีที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์มาก ๆ ตอนนี้เด็กคงหมดความสนใจในการเล่นเกมแล้ว รวมถึงบางคนชี้ว่า "เมื่องานอดิเรกต้องกลายมาเป็นงาน มันก็จะไม่ใช่งานอดิเรกอีกต่อไป" และ "ถ้าให้เล่นไปสักเดือนหนึ่ง ผลก็คงยิ่งเห็นชัด ถ้าเป็นฉันคงรู้สึกเอียนไปเลยถ้าเห็นเกมหลังจากนี้"
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, China Times
โดยพบว่าลูกชายวัย 8 ขวบ กำลังติดเกมในโทรศัพท์มือถือแบบหนักมาก ขนาดครูเข้ามาเกลี้ยกล่อมให้เขาตั้งใจเรียนหนังสือ เขากลับตอบไปว่า "ผมไม่อยากเรียนอีกแล้ว ผมอยากเล่นเกม" และยังอยากจะหยุดเรียนมาเล่นเกมเฉย ๆ ด้วยซ้ำ
โดยเด็กชายจะต้องเล่นเกม 16 ชั่วโมงต่อวัน มีช่วงพักกินอาหาร 3 มื้อ นอกจากนี้ลูกชายยังต้องทำการบันทึก KPI หรือดัชนีชี้วัดความสำเร็จ ซึ่งเขาจะต้องเขียนสรุปและรายงานผลการเล่นเกมให้แม่ทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็น
คุณแม่เผยว่า ในวันแรกเจ้าลูกชายตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้เล่นเกมให้เต็มที่ ในวันที่ 2 ก็ยังดูดี สามารถลุกขึ้นจากเตียงในตอนเช้าได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น ทั้งที่ปกติจะต้องงัวเงียอยู่เช่นนั้นเป็นครึ่งชั่วโมง กว่าจะพร้อมทำอย่างอื่น
ในวันนั้นลูกชายก็เขียนรายงานการเล่นเกมตามปกติ โดยพบว่าช่วงเช้าเขาเล่นไป 18 รอบ และสามารถเข้าถึงอันดับที่น่าพอใจเพียง 5 รอบเท่านั้น แม่จึงให้คำชี้แนะต่าง ๆ รวมถึงตรวจทานรายงานของลูกชาย พร้อมชี้จุดข้อผิดพลาดในการเขียนรายงานของเขา ทั้งเรื่องการใช้เครื่องหมายต่าง ๆ การเขียนที่ไม่ไหลลื่น และย้ำว่าหากเขายังเขียนได้ไม่ดี ก็ต้องนั่งเขียนรายงานใหม่
ทั้งนี้ พบว่าเมื่อเข้าสู่วันที่ 3 ลูกชายที่ยังดูกระตือรือร้นสุด ๆ ในตอนแรก ก็เริ่มแสดงท่าทีเบื่อหน่ายซะแล้ว ต่างจากวันแรกที่รู้ว่าจะได้เล่นเกมทั้งวัน ดูเหมือนว่าภายใต้ความกดดันของการทำ KPI และการทำรายงานสรุปการเล่น จะทำให้ความสนุกในการเล่นเกมค่อย ๆ หายไป
ลูกชายเดิมที่มีความกระตือรือร้นในการเล่นเกม ภายใต้ความกดดันของ KPI และการต้องทำรายงานทบทวนการเล่น ดูเหมือนว่าความสนุกในการเล่นเกมจะค่อย ๆ หายไป แม่บอกว่า ปัจจุบันเพิ่งถึงวันที่ 3 ลูกก็เริ่มออกอาการเบื่อซะแล้ว
ทั้งนี้ แม่เผยว่า เธออยากให้ลูกชายได้ตระหนักว่า แม้จะเป็นการเล่นเกมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
ขณะที่ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาชื่นชมแม่รายนี้ กับวิธีรับมือลูกชายติดเกม บอกว่าเป็นวิธีที่มีความเป็นวิทยาศาสตร์มาก ๆ ตอนนี้เด็กคงหมดความสนใจในการเล่นเกมแล้ว รวมถึงบางคนชี้ว่า "เมื่องานอดิเรกต้องกลายมาเป็นงาน มันก็จะไม่ใช่งานอดิเรกอีกต่อไป" และ "ถ้าให้เล่นไปสักเดือนหนึ่ง ผลก็คงยิ่งเห็นชัด ถ้าเป็นฉันคงรู้สึกเอียนไปเลยถ้าเห็นเกมหลังจากนี้"
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก ETtoday, China Times
