ประท้วงเดือดทั่วจีน ขับไล่สีจิ้นผิง สุดทนล็อกดาวน์เข้ม จน 10 ชีวิตสังเวยเหตุไฟไหม้

           โดยพบว่าที่ปักกิ่ง มีนักศึกษาหลายร้อยคนมารวมตัวกันที่มหาวิทยาลัยซิงหวา เพื่อร่วมการเดินขบวนประท้วงสื่บเนื่องจากความไม่สงบที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาล ผู้ประท้วงต่างพากันส่งเสียงเรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพในการแสดงออก ขอให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ รวมถึงมีการชูกระดาษเปล่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ถึงการต่อต้านนโยบายการเซ็นเซอร์ของทางการจีน

ประท้วงลุกลามกว่า 7 เมือง พลเรือนปะทะเจ้าหน้าที่

           การประท้วงปะทุขึ้นอย่างน้อยในพื้นที่ 7 เมือง รวมถึงที่เซี่ยงไฮ้ นานกิง และกว่างโจว โดยมีการปะทะกันระหว่างตำรวจท้องถิ่นกับผู้ประท้วงที่เกรี้ยวกราด ภาพที่เผยแพร่บนสื่อออนไลน์เผยให้เห็นฝูงชนที่กำลังพังรั้วเหล็กและเครื่องกีดขวาง ขณะเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ซึ่งใช้กระบองและแก๊สน้ำตา ในความพยายามควบคุมการประท้วง โดยพบว่าการเดินขบวนที่ใหญ่สุดเกิดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้

อุรุมชีลุกฮือ หลัง 10 ชีวิตดับในเหตุไฟไหม้อพาร์ตเมนต์

           ภาพที่ปรากฏบนโลกออนไลน์พบว่ามีผู้ประท้วงหลายร้อยคน กำลังเผชิญหน้ากับตำรวจปราบปรามจลาจลบนท้องถนน โดยมีคนที่เรียกร้องให้ สีจิ้นผิง ก้าวลงจากอำนาจ

เซี่ยงไฮ้ร่วมไว้อาลัย อีกจุดการปะทะเดือด

           ด้านนครเซี่ยงไฮ้ พบว่าผู้คนมารวมตัวกันบริเวณถนน มิดเดิลอุรุมชี ตอนช่วงกลางดึกเพื่อนำดอกไม้และจุดเทียน ร่วมไว้อาลัยแก่เหยื่อที่เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้อพาร์ตเมนต์ดังกล่าว ก่อนจะเกิดการประท้วงขึ้น โดยหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่าเพื่อนของเขาถูกตำรวจทำร้ายและฉีดสเปร่ย์พริกไทยใส่ ในขณะที่ผู้ประท้วงเรียกร้องให้สีจิ้นผิงลาออก และยกเลิกการล็อกดาวน์ซินเจียง

           ทั้งนี้ ปีเตอร์ แฟรงโกเพน ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์โลก มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ได้แสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ประท้วงในจีน โดยเตือนว่ารัฐบาลจีนมีแนวโน้มโต้ตอบกลุ่มประท้วงด้วยมาตรการที่รุนแรงกว่านี้ และชี้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 2532

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลี่เมล