เปิดใจนักธุรกิจหญิง ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม 2.7 แสนที่ไทย แต่พนักงานไม่เอาสัญญาณกันขโมยออก ทำหวิดโดนจับที่ฮ่องกง รับสุดอับอาย ขอจดหมายขอโทษยังโดนปฏิเสธ จากนี้เดินหน้าฟ้อง
จากกรณี หญิงรายหนึ่ง ออกมาเล่าประสบการณ์เกือบติดคุกที่ฮ่องกง จากกรณีซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดังจากช็อปที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่พนักงานลืมเอาสัญญาณกันขโมยออก เมื่อเดินทางไปถึงฮ่องกง เมื่อเข้าห้างแล้วสัญญานกันขโมยร้องเสียงดัง เธอจึงโดนเชิญตัวและมองว่าเป็นคนขโมยของในห้าง ทำให้รู้สึกอับอาย และต้องพยายามพิสูจน์ความจริงทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด โดยหลังเกิดเหตุติดต่อไปทางแบรนด์ ได้รับแค่การส่งดอกไม้ขอโทษให้ 1 ช่อ เพียงเท่านั้น
อ่านข่าว : ซื้อแบรนด์เนม 2 แสนจากช็อปไทย เกือบได้เข้าคุกที่ฮ่องกง ความสะเพร่า SA แบรนด์ลักซูรี่ ?!
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 24 มีนาคม 2566 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า จากการสอบถาม คุณนภัสสร หรือ คุณเล็ก อายุ 52 ปี นักธุรกิจ เล่าว่าเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา เธอซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม 1 ใบ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในราคาใบละ 275,000 บาท หลังจ่ายเงินเรียบร้อย เธอก็เปลี่ยนใช้กระเป๋าใบใหม่ทันที และออกจากร้านมาตามปกติ ไม่มีสัญญาณกันขโมยดังขึ้นใด ๆ
กระทั่งวันที่ 13 มีนาคม 2566 เธอไปเดินห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในฮ่องกง และกำลังจะเข้าร้านเสื้อผ้าร้านหนึ่ง ปรากฏว่ามีสัญญาณกันขโมยดังขึ้น ทำให้ทุกคนหันมามองเธอ ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะมาจากกระเป๋าใบใหม่ที่เพิ่งซื้อมา และอาจจะมีตัวกันขโมยที่ทางร้านไม่ได้เอาออกติดมาด้วย โชคดีที่วันนั้นติดใบเสร็จจากช็อปไทยมาด้วย จึงบอกกับร้านเสื้อผ้าว่า ให้พาเธอไปที่ช็อปของกระเป๋าแบรนด์นี้ เพื่อให้ช่วยยืนยัน และเอาตัวสัญญาณนี้ออก
ตลอดทางที่เดินจากร้านเสื้อผ้า ไปที่ช็อปกระเป๋าแบรนด์เนม มีแต่คนมองเธอ จนทำให้รู้สึกอับอาย พอไปถึงปรากฏว่าทางพนักงานของแบรนด์เนม บอกให้เธอไปนั่งรอก่อน และยังไม่สามารถถอดสัญญาณให้ได้ ต้องขอประชุมก่อน เธอจึงโชว์ใบเสร็จจากไทยให้ทางร้านที่ฮ่องกงดู โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ทางร้านจึงตัดสินใจถอดตัวสัญญาณกันขโมยนี้ให้ เมื่อมาสังเกตให้ดี ตัวสัญญาณกันขโมยนี้ มีขนาดเล็กประมาณนิ้วชี้ สีดำ จะติดอยู่ระหว่างกระเป๋าใบใหญ่กับใบเล็ก ซึ่งทางสาขายังแนะนำกับเธอด้วยว่า ต้องไปฟ้องร้องเรื่องนี้
จากนั้นวันที่ 16 เธอกลับมาถึงไทย จึงโทร. ไปที่คอลเซ็นเตอร์ของแบรนด์ ก่อนที่ผู้จัดการของสนามบินสาขาสุวรรณภูมิ จะโทร. กลับมา พร้อมกล่าวขอโทษ แจ้งว่าทางพนักงานขายเป็นพนักงานใหม่ เธอจึงถามกลับไปว่าจะเยียวยาอย่างไร โดยเฉพาะความอับอายที่เกิดขึ้น ทางผู้จัดการบอกว่าประชุมแล้วจะให้แมสเซนเจอร์จัดส่งช่อดอกไม้ไปขอโทษ เธอจึงขอให้ทางผู้จัดการเป็นคนมาส่งแทนได้หรือไม่ พร้อมกับจดหมายขอโทษอย่างเป็นทางการ เพราะกังวลว่าในวันนั้นอาจมีใครจำเธอได้ เพราะเธอเป็นนักธุรกิจ จะได้แจ้งว่าเธอไม่ได้ขโมยของ แต่ทางผู้จัดการบอกว่าไม่สามารถทำได้ ย้ำว่าทำได้เพียงให้แมสเซนเจอร์มาส่งช่อดอกไม้ให้
สุดท้ายนี้ หลังเธอพยายามเจรจากับแบรนด์สาขาดังกล่าวมา 4 วัน แต่ไม่เป็นผล ล่าสุด เธอจึงยุติการเจรจาแล้ว และจะส่งทนายให้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
